ดราม่าหญิงเล่นซิปไลน์โรยตัวข้ามป่าชิวๆพร้อมอุ้มลูกน้อยไปด้วย 

        เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในประเทศมาเลเซียเนื่องจากว่ามีคลิปไวรัลถูกเผยแพร่ในโลกออนไลน์ซึ่งคลิปดังกล่าวนั้นเป็นคลิปที่หญิงสาวคนหนึ่งกำลังเล่นซิปไลน์อยู่กลางพื้นที่ป่าแต่ที่เป็นกระแสทำให้คนวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนักจนเดือดในโลกออนไลน์เดือดนั่นก็เพราะว่าในขณะที่หญิงคนดังกล่าวเล่นซิปไลน์อยู่นั้นมืออีกข้างหนึ่งก็อุ้มลูกน้อยเอาไว้ด้วย 

       สำหรับเรื่องราวดังกล่าวนั้นได้ถูกเผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์ World of Blass เมื่อวันที่ 14 เดือนพฤศจิกายน ปี พ.ศ. 2565 

โดยในเว็บไซต์ระบุว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นอยู่ในเมืองกัวลา คูบู บารู ซึ่งในคลิปจะเห็นได้ว่าในขณะที่หญิงสาวกำลังลอยตัวอยู่นั้นอีกข้างนึงก็อุ้มลูกน้อยเอาไว้แนบอกถึงแม้ว่าจะมีอุปกรณ์เซฟตี้อย่างดีมีสายรัดโรยตัวสีเหลืองมัดตัวเด็กเอาไว้ให้อยู่ติดกับผู้เป็นแม่ 

       แต่คนที่เห็นภาพในคลิปดังกล่าวต่างก็พากันหวาดเสียวเป็นอย่างมากเพราะอาจมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นได้และถ้าหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นเด็กตกลงมาหรือแม้แต่อุปกรณ์สายรัดโรยตัวค่ะก็อาจจะทำให้เด็กได้รับบาดเจ็บได้ นอกจากนี้จะเห็นได้ว่าการลอยตัวเล่นซิปไลน์ในครั้งนี้นั้นมีความสูงค่อนข้างมากเลยทีเดียวดังนั้นถ้าหากมีอุบัติเหตุอะไรเกิดขึ้นไม่ว่าจะแม่หรือตัวเด็กอาจจะได้รับบาดเจ็บถึงแก่ความตายได้ 

          อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ดราม่าในครั้งนี้ผู้คนต่างก็มองว่าผู้เป็นแม่นั้นไม่คำนึงถึงความสำคัญและความปลอดภัยของลูกและเอาความสนุกของตนเองเป็นที่ตั้งนอกจากนี้กระแสโซเชียลยังมองว่าการเล่นซิปไลน์ควรจะต้องมีการตั้งกฎกติกาเอาไว้อย่างชัดเจนด้วย

ควรจะมีการกำหนดผู้เล่นว่าควรจะมีอายุขั้นต่ำไม่เกินเท่าไหร่เพราะการเล่นซิปไลน์นั้นนับได้ว่าเป็นการเล่นที่อันตราย

และถ้าหากคนอายุน้อยก็ไม่ควรเล่นเพราะถือได้ว่าเป็นกิจกรรมที่ผ่านผลดังนั้นจึงควรกำหนดอายุของผู้เล่นอย่างชัดเจนเพราะเหตุการณ์ที่เด็กไปเล่นซิปไลน์และตกลงมานั้นเคยเกิดขึ้นมาแล้วซึ่งเป็นเด็กอายุ 10 ขวบโดยในตอนนั้นมีความสูงถึง 6 เมตรเมื่อเด็กตกลงไปก็อยู่ในสภาพแน่นิ่งโชคดีที่ได้รับการช่วยเหลือทันท่วงทีและไม่ถึงแก่ความตาย 

       สำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้มีชาวโซเชียลบางคนได้นำคลิปหลักฐานดังกล่าวไปมอบให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเขต 6 เป็นที่เรียบร้อยแล้วซึ่งเมื่อวันที่ 13 เดือนพฤศจิกายน ปี พ.ศ. 2565 ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการออกแถลงการณ์เกี่ยวกับคลิปดังกล่าวโดยว่าจะมีการตรวจสอบหาข้อเท็จจริง

ถ้าเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริงก็จะมีการแจ้งความดำเนินคดีกับหญิงสาวผู้เป็นแม่เพราะถือได้ว่ามีความผิดในฐานละเลยความปลอดภัยของลูกของตนเองซึ่งมีโทษทั้งจำทั้งปรับและสามารถติดคุกได้ไม่เกิน 20 ปีรวมถึงปรับเงินสูงสุดอยู่ที่ 5หมื่นริงกิตอีกด้วย 

 

สนับสนุนโดย    ufabet