ศิลปะร่วมสมัย

ศิลปะเป็นสิ่งที่สื่อสารที่สามารถผ่านทั้งรูปธรรมและนามธรรม เนื้อหาสาระของศิลปะนั้น  ศิลปะร่วมสมัย   มักจะถ่ายทอดมาจากวัฒนธรรม ค่านิยมและสังคม นั่นหมายความว่าศิลปะเป็นเสมือนเครื่องมือที่เอาไว้ใช้ในการตรวจสอบวัฒนธรรม ค่านิยมและสังคมอย่างลึกซึ้ง ในบางครั้งศิลปินหรือผู้คนที่มีความคิดสร้างสรรค์หรือการท้าทายศิลปะมีแนวคิดที่นอกกรอบอาจะถูกมองว่าเพี้ยนห

รือว่าเป็นสิ่งที่ผู้คนนั้นมักจะหาความหมายว่าคนเหล่านี้นั้นทำอะไรอยู่ทำไมถึงได้มีการเบี่ยงเบนผลงานศิลปะให้มันแตกต่างออกไป แต่สำหรับในยุคปัจจุบันนี้นั้นสำหรับผลงานศิลปะมีมากมายหลากหลายแบบนอกจากผลงานร่วมสมัย แต่คนในสังคมส่วนใหญ่นั้นไม่เข้าใจและเข้าไม่ถึงในแนวคิดสร้างสรรค์ของศิลปินในยุคใหม่

สำหรับศิลปะร่วมสมัยนั้นศิลปินเป็นผู้ที่ถ่ายทอดเรื่องราว สะท้านเหตุการณ์และมุมมองของศิลปินยุคใหม่นั้นเป็นอย่างไร

งานศิลปะสมัยใหม่ ศิลปะร่วมสมัยหรือที่เรียกว่า Modern Art เป็นผลงานทางด้านศิลปะที่มีหลักเกณฑ์ในการสร้าง ประดิษฐ์และถ่ายทอดในลักษณะที่แปลกใหม่   gclub ฟรี 100   ทำให้ความหมายองศิลปะร่วมสมัยนั้นก็จะถูกตีความหมายตามคำวิจารณ์ต่างๆจากผู้ดูงานศิลปิน มากกว่าการจำกัดว่าศิลปะร่วมสมัยชนิดนี้นั้นมีความหมายแบบนี้

ถึงแม้ว่าผู้สร้างสรรค์ศิลปะตัวศิลปินนั้นจะมีการกำหนดว่าศิลปะชนิดนี้นั้นถูกสร้างสรรค์จากสิ่งใด มีเป้าหมายและจุดประสงค์เพื่ออะไร แต่เมื่อเป็นงานศิลปะสมัยใหม่ ทำให้ในการสร้างสรรค์สามารถที่จะมองมุมต่างออกไปได้ด้วย โดยส่วนใหญ่ศิลปะยุคใหม่ในสมัยนี้ก็จะเน้นการสร้างสรรค์ตามกระแสสังคม เนื่องจากกระแสสังคมในปัจจุบันนี้นั้นมีความน่าสนใจและสามารถสร้างสรรค์ให้ผู้ชมได้ติดตามและเข้าใจในผลงานได้อย่างง่ายขึ้น

ศิลปะร่วมสมัยก็คือการผสมผสานระหว่างสิ่งต่างๆเข้าด้วยกัน ไม่เพียงการสร้างสรรค์ศิลปะเท่านั้น แต่คือการสร้างให้คนนั้นมีส่วนร่วมในงานศิลปะด้วย เพื่อให้ผู้คนนั้นสามารถชมงานศิลปะได้อย่างเข้าใจและลึกซึ้งมากขึ้น ยกตังอย่างเช่น ผลงานศิลปะในยุคปัจจุบันก็จะมีการสร้างสรรค์เป็นลักษณะผลงานที่มีการขึ้นโชว์บนแทน

แต่ไม่ใช่การขึ้นโชว์เท่านั้น ผู้ชมที่เข้าชมงานศิลปะสามารถเข้าไปด้านในหรือเข้าชมด้านในเพื่อให้เข้าใจและเห็นความแต่งต่างและวัตถุประสงค์ที่ศิลปินนั้นต้องการจะถ่ายทอด งานศิลปะจะไม่ได้เป็นเพียงภาให้เห็นเท่านั้นแต่จะมีลักษณะที่สามารถสัมผัสถึงกลิ่น การเคลื่อนไหวของผลงานได้ด้วย ก็จะทำให้การชมและการเสพผลงานนั้นมีความน่าสนใจมากขึ้น

ทำให้ผลงานมีความน่าค้นหา และวัสดุที่นำมาใช้ในผลงานศิลปะร่วมสมัยนั้นก็เป็นเป็นสิ่งที่เรานั้นคุ้นชินและเคยเห็นกันอยู่ในชีวิตประจำวัน แต่นำมาถ่ายทอดเรื่องราวให้มีความน่าสนใจและไม่ซ้ำกับศิลปะในแบบเดิม ก็เรียกได้ว่าเป็นผลงานที่ทำให้คนในสังคมสามารถเข้าถึงได้มากขึ้นและเข้าใจในสิ่งที่ศิลปินนั้นต้องการจะสื่อออกมา เมื่อผู้คนเข้าใจในศิลปะมากขึ้น การเข้าถึงเพื่อผลงานศิลปะก็มากขึ้นเช่นกัน ดังนั้นแล้วผลงานศิลปะร่วมสมัยจึงเรียกได้ว่าเป็นศิลปะที่เปิดโลกและทำให้ผู้คนหันมาสนใจในงานศิลปะมากขึ้น

ศิลปะแบบอิมเพรสชันนิสม์

ศิลปะแบบอิมเพรสชันนิสม์ สำหรับการที่ศิลปินได้มีการเปลี่ยนรูปแบบของศิลปะจากเดิมที่เคยเป็นแบบคลาสสิคกลายมาเป็นแบบเรียลิสม์และอันดับต่อมานั้นก็กลายมาเป็นแบบนั้นก็เพราะว่าทางผู้ที่ชื่นชอบเกี่ยวกับเรื่องของผลงานด้านศิลปะนั้นเกิดความรู้สึกเบื่อหน่ายแล้ว

ก็ไม่อยากที่จะใช้เอาพวกวิวัฒนาการของศิลปินในรูปแบบเดิมๆมาใช้อยากจะมีการเปลี่ยนแปลงในรูปแบบศิลปะมาเป็นแบบใหม่จึงได้พยายามค้นคว้าว่ารูปแบบของศิลปะนั้นจะมีรูปแบบไหนได้บ้าง

         ซึ่งผลจากการค้นคว้านั้นก็คือการได้ศิลปะรูปแบบขนานใหม่ขึ้นมาซึ่งทำให้เกิดแรงบันดาลใจสำหรับศิลปินใหม่ๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกศิลปินที่ชื่นชอบความคิดด้านอิสระชอบการใช้สีการเล่นแสงและเงาต่างๆและไม่อยากจะใช้การเรียนแบบของสมัยโบราณ

นึกว่าจะเป็นสมัยกรีกโบราณหรือโรมันโบราณมาผสมผสานกับรูปแบบของศิลปะของตนเองดังนั้นจึงได้มีการหยิบยกเอาความนิยมชมชอบคือความชอบส่วนตัวของตนเองมาผสมผสานให้เกิดศิลปะทำให้เกิดความประทับใจ

          ซึ่งส่วนใหญ่แล้วศิลปะแบบอิมเพรสชันนิสม์ก็คือการสร้างความประทับใจกับสิ่งแวดล้อมเรื่องราวของตัวเองโดยที่ไม่จำเป็นที่จะต้องเอาเรื่องราวของลัทธิต่างๆหรือประวัติศาสตร์ต่างๆรวมถึงนิยายโบราณต่างๆมาแสดงเป็นผลงานด้านศิลปะนั้นเองซึ่งศิลปะแบบอิมเพรสชันนิสม์นั้นจะเป็นการนำธาตุต่างๆที่เรารู้สึกชื่นชอบ

และรู้สึกประทับใจมาเสนอในรูปแบบของผลงานด้านศิลปะเพื่อตอบสนองความต้องการในการชมผลงานศิลปะของตนเองและผู้อื่นด้วยตนเองและศิลปะนี้ก็ถูกและเริ่มนำมาแสดงเรื่อยๆจนถึงปัจจุบันนี้ก็กลายเป็นศิลปะที่กำลังได้รับความนิยมไม่แตกต่างศิลปะในรูปแบบอื่นๆเลยทีเดียว

          ซึ่งส่วนใหญ่แล้วการวาดศิลปะแบบอิมเพรสชันนิสม์นั้นมักจะเป็นการออกไปหาประสบการณ์นอกบ้านหรือนอกสถานที่ไปชมวิวทิวทัศน์ต่างๆแล้วเผยแพร่ออกมาเป็นผลงานด้านศิลปะส่วนใหญ่และศิลปะพระชนิดนั้นจะแสดงออกมาในรูปแบบของธรรมชาติรูปแบบของสิ่งแวดล้อมต่างๆที่ผู้สร้างสรรค์ผลงานด้านศิลปะได้พบเจอมาด้วยตนเองและชื่นชอบเกิดความประทับใจจึงแสดงผลงานศิลปะเหล่านี้ผ่านทางรูปภาพผืนผ้าใบต่างๆโดยใช้สีในการเล่นทำให้เกิดแสงและเงา

          ซึ่งศิลปะอิมเพรสชันนิสม์นั้นจะค่อนข้างที่จะหยาบไม่มีการเกลี่ยให้เกิดความสวยงามหรือสีอาจจะไม่ได้เรียบแต่ก็ถือว่าเป็นจุดเล็กๆจนจุดขายอย่างหนึ่งที่ทำให้เกิดความประทับใจเกิดมิติมุมมองใหม่ด้านศิลปะและทำให้เกิดรูปแบบของศิลปะรูปแบบใหม่ขึ้นมาจึงเรียกศิลปะแนวนี้ว่าศิลปะอิมเพรสชั่นนิสนั้นเอง ผลงานที่เป็นศิลปะแบบอิมเพรสชันนิสม์ยกตัวอย่างเช่น ภาพวาดของวินเซนต์แวนโก๊ะในปี 1889 ชื่อผลงานคือราตรีประดับดาว เป็นต้น

 

สนับสนุนโดย.   Ufabet เข้าสู่ระบบ

โมนาลิซ่า ภาพปริศนา ที่คนทั่วโลกอยากรู้ โมนาลิซ่า คือใคร

โมนาลิซ่า ภาพปริศนา เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินภาพเกี่ยวกับโมนาลิซ่ากันมาบ้าง ไม่ว่าจะเป็นคนที่ชื่นชอบผลงานด้านศิลปะหรือไม่ก็ตาม เพราะว่าดภาพนี้มีการพูดถึงกันอย่างแพร่หลาย และมีหลายคนอยากรู้ว่าทำไมดภาพนี้ถึงมีราคาแพงมากมาก ที่สำคัญสิ่งที่ทุกคนรู้เกี่ยวกับภาพนี้ก็คือ เป็นภาพหญิงสาวที่สวยที่สุดในโลก

       อย่างไรก็ตามสำหรับคนที่อยู่ในวงการภาพวาด วงการศิลปะแล้ว

จะมีความต้องการอยากรู้สึกลงไปมากว่านี้สิ่งที่หลายคนอยากรู้ก็คือ หญิงสาวที่อยู่ในภาพเป็นใครทำไม นักวาดดภาพที่มีชื่อเสียงระดับโลกถึงได้เอามาเป็นแบบสำหรับวาดภาพ 

    โมนาลิซ่าจิตรกรรมชิ้นเอกของ Leonardo Da Vinci และเรียกได้ว่าเป็นภาพวาดที่โด่งดังมากที่สุดในโลกแต่ภาพหญิงสาวนี้ซ่อนปริศนาสำคัญเอาไว้นั่นก็คือโมนาลิซ่าเป็นใครมีทฤษฎีที่ว่าโมนาลิซ่าคือภรรยาพ่อค้าไหมชาว For Rent คนอื่น

     จากบันทึกของ  Giorgio vasari จิตรกรและสถาปนิกชื่อดังของอิตาลีในยุคเรเนซอง  บันทึกว่าพ่อค้าชาว For Rent นำว่าฟรานเชสโก้ เดลจิคอนโดได้ว่าจ้างให้ดาวินชี่วาดภาพลิซ่า เดลจิคอนโด  ภรรยาของเขาเพื่อเป็นของขวัญ  ดาวินชี่ใช้เวลากว่า 4 ปีในการวาดภาพหญิงสาวผู้นี้ได้ยังไม่ทันเสร็จดีเขาก็ถูกกษัตรฟาร์ซิสที่ 1 เรียกตัวไปฝรั่งเศสและเขายังพกภาพนี้ติดตัวไปด้วยตลอดจนกระทั่งเสียชีวิตอีกด้วย

   โดยทางลูฟร์ ออกมายืนยันว่า Lisa del ray Condo เป็นแบบวาดภาพโมนาลิซ่าจริงๆแต่ไม่สามารถยืนยันได้ว่าเธอคือแบบให้กับภาพชิดจัดแสดงอยู่ที่ลูฟร์ นั่นก็เพราะว่ายังมีหลักฐานอีกหลายชิ้นว่าภาพวาดโมนาลิซ่าอาจมีมากกว่า 1 ภาพและใช้นางแบบคนละคนกันเช่นทฤษฎีของปาสคาลนักวิทยาศาสตร์ชาวฝรั่งเศสที่เชื่อว่านี่คือ risa taneda ยิ่งที่ดาวินชี่เคยจ้างมาให้เป็นแบบวาดภาพ

        โดยใช้เทคโนโลยีถ่ายภาพขั้นสูงขยายภาพวาดให้เห็นว่ามีหญิงสาวอีกคนหนึ่งอยู่ใต้ภาพวาดโดยเธออยู่ในท่วงท่าที่คล้ายคลึงกับโมนาลิซ่าแต่รูปส่งใบหน้าและดวงตาอยู่ในตำแหน่งที่ต่างกันเล็กน้อย

         หรือทฤษฎีที่ว่าเธอคือภรรยารับของขุนนางตระกูลเมดิซีตระกูลที่กุมอำนาจอิตาลีในขณะนั้นโดยมีบันทึกของผู้ที่เคยไปเยี่ยมที่พักของดาวินชีเป็นหลักฐานยืนยันอย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าจะมีหลากหลายทฤษฎีข้อสันนิษฐานและหลักฐานมาระบุตัวตนที่แท้จริงของโมนาลิซ่าและปริศนาของเธอก็ยังเป็นที่สงสัยและยังคงเป็นสิ่งที่คนหาคำตอบมากกว่า 5 ศตวรรษ 

 

สนับสนุนโดย.   ติดต่อ ufabet

การศึกษาและงานศิลปะในประเทศไทย

ศิลปะในประเทศไทยเป็นศิลปะที่มีความต้องการในการพัฒนาค่อนข้างเยอะผู้คนต่างๆมีความต้องการในการพัฒนาไม่ว่าจะเป็น งานสร้างสรรค์เกี่ยวกับปฏิมากรรมในประเทศไทยการปั้น การแกะสลักหรือแม้แต่จะเป็นการทำงานเร็วๆนี้มากมายรวมถึงในยุคปัจจุบันก็มีการพัฒนาศิลปะร่วมสมัยเป็นอย่างมาก ผู้คนต่างๆมีความต้องการในการพัฒนาอุดมคติรวมถึงมีการพัฒนาวัฒนธรรม ความคิดต่างๆหรือความเชื่อต่างๆ

ที่สืบต่อกันมาได้แต่ละจังหวัดหรือแต่ละอำเภอก็จะมีลักษณะของงานศิลปะที่แตกต่างออกไปอย่างไรก็ตาม ผู้คนต่างๆที่ใช้ชีวิตอยู่ในโลกปัจจุบันอาจจะได้เห็นงานศิลปะเป็นจำนวนมากไม่ว่าจะเป็นงานศิลปะที่อยู่ในโบสถ์ หรืองานศิลปะที่อยู่ในวัดเองก็ตามเพราะผู้คนต่างๆมีลักษณะในการใช้ชีวิตด้วยความเชื่อต่างๆที่แตกต่างกันออกไป

สถานที่งานเก่าๆประติมากรรมงานวาดงานเขียนหรือแม้แต่จะเป็นงานปั้น เราอาจจะเห็นตัวละครในวรรณคดี หรือแม้แต่จะเป็นตัวละครที่เกี่ยวกับศาสนาผู้คนต่างมีความต้องการในการถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆตามความเชื่อหรือแม้แต่จะเป็นความนิยมกิจกรรมต่างๆของมนุษย์ ให้ส่งต่อถึงคนรุ่นหลังนี้เองจึงมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่ในวัดในโบสถ์ต่างๆมีรูปวาดหรือแม้แต่จะเป็นงานบ้านต่างที่เพิ่มมากยิ่งขึ้น

โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันก็มีการพัฒนาเป็นงานเขียนรวมถึงงานดิจิตอลในการใช้งานอีกด้วย จึงทำให้การเปลี่ยนแปลงของรูปแบบในการอยู่อาศัยของผู้คนในการพัฒนาอยู่เสมอ

อย่างไรก็ตามประเทศไทยในยุคปัจจุบันก็มีการศึกษาหรือให้ความสำคัญเกี่ยวกับการเรียนการสอนงานศิลปะค่อนข้างเยอะ ไม่ว่าจะเป็นผู้คนต่างๆในยุคปัจจุบันที่สามารถศึกษาเกี่ยวกับงานศิลปะเบื้องต้นได้ตั้งแต่วัยประถม ซึ่งกำลังหัดเขียนหัดอ่านนี้จะเป็นส่วนสำคัญที่มีวัฒนาการการเรียนการสอนของประเทศไทยให้ความสำคัญเกี่ยวกับทางด้านจินตนาการกับเด็ก การศึกษาและศิลปะในประเทศไทย

มีการพัฒนาด้านข้างเยอะไม่ว่าจะเป็นมหาลัยต่างๆหรือสถาบันการศึกษาต่างๆในยุคปัจจุบันที่มีจำนวนที่เพิ่มมากขึ้นยิ่งจะทำให้ส่วนใหญ่ผู้คนสามารถเข้าถึงงานศิลปะได้ แม้แต่ขอสิ่งใดในยุคปัจจุบันก็มีเป็นจำนวนมากรวมถึงสถาบันเกี่ยวกับการเก็บรวบรวมประวัติศาสตร์หรืองานศิลปะต่างๆตามจังหวัดต่างๆอีกมากมาย การเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยต่างๆเหล่านี้ไม่อาจลบเลือนความเชื่อหรือแม้แต่จะเป็นความต้องการในการถ่ายทอดของงานศิลปะต่างๆได้

การเปลี่ยนแปลงของงานต่างๆจะมีการพัฒนาอยู่เสมอผู้คนต่างให้ความสนใจในการพัฒนาการทำงานหรือการเปลี่ยนแปลงรูปแบบในการใช้ชีวิตที่ดีมากยิ่งขึ้น การเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยต่างๆไม่ว่าจะเป็นในส่วนของวันเวลาที่ผ่านไป งานศิลปะต่างๆเริ่มถ่ายทอดเกี่ยวกับความคิดหรือแม้แต่จะเป็นความเชื่อต่างๆ

โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่งานร่วมสมัยต่างๆมีการแสดงออกทางความคิดเห็นทางการเมืองค่อนข้างเยอะ ตอนนี้ปัจจุบันความเห็นทางการเมืองค่อนข้างมีบทบาทกับผู้คนนี่เองจึงเห็นได้ว่าในยุคปัจจุบันงานศิลปะเกี่ยวกับการเมืองมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก 

 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย   เว็บตรง ไม่ผ่านเอเย่นต์

เสน่ห์ที่ฆ่าไม่ตายของกล้องฟิล์ม

ด้วยยุคสมัยและความเจริญก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปจากเมื่อก่อนทำให้หลายคนเคยมองข้ามกล้องฟิล์ม แล้วหันมาใช้กล้องดิจิตอลแทน กล้องฟิล์มจึงไม่ได้เป็นที่นิยมและแทบจะหายไปจากยุคนี้ แต่ปัจจุบันกล้องฟิล์มได้กลับมามีกระแสและเป็นที่นิยมอีกครั้ง เพราะเหตุใดกันนะคนส่วนใหญ่ถึงกลับมาเล่นกล้องฟิล์มกันอีกครั้ง 

ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกล้องฟิล์มกันดีกว่า 

-ใช้ขนาดของกล้องฟิล์ม หรือ Format ในการแบ่งประเภท จะสามารถแบ่งกล้องฟิล์มได้ 3 ประเภท

  1. Small Format คือ กล้องฟิล์มที่คนนิยมใช้กันทั่วไป ฟิล์มที่ใช้จะเป็นแบบ 35mm
  2. Medium Format คือ กล้องที่ใช้ฟิล์มขนาดใหญ่ขึ้นมาจากแบบทั่วไป คือ Format 120 (ขนาด 6″x6″ หรือ 6″x9″)
  3. Large Format คือ กล้องฟิล์มที่มีขนาดใหญ่ หาไม่ได้ทั่วไป ใช้ฟิล์มขนาด 4×5 นิ้ว หรือ ใหญ่กว่านั้น ด้วยความที่ตัวกล้องมีขนาดใหญ่จึงอาจทำให้ยากต่อการใช้งาน 

-ใช้ลักษณะการโฟกัสในการแบ่งประเภท จะสามารถแบ่งกล้องฟิล์มได้ 2 ประเภท

1.กล้องฟิล์ม RF (Rang Finder) คือ กล้องฟิล์มที่มีขนาดเล็กกะทัดรัด พกพาไปไหนมาไหนได้สะดวก มีการโฟกัสภาพโดยการมองผ่านช่องมองภาพ ซึ่งเป็นช่องมองภาพจะเป็นคนละช่องกับเลนส์รับภาพ ในการโฟกัสภาพจะใช้การปรับวงแหวนโฟกัสของเลนส์ควบคู่ไปกับตัววัดระยะของกล้อง จะต้องใช้การกะระยะจากเฟรมในช่องมองภาพ การโฟกัสภาพแบบดังกล่าว เรียกว่า Parallax Focus หรือ แบบภาพซ้อน อันเป็นการโฟกัสที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว กล้องฟิล์ม RF ไม่สามารถเปลี่ยนเลนส์กล้องได้จึงมีความยืดหยุ่นในการใช้งานน้อย 

  1. กล้องฟิล์ม SLR (Single Lens Reflex) คือ กล้องฟิล์มที่ใช้ช่องมองภาพ (View Finder) ในการโฟกัสภาพผ่านเลนส์ กล่าวคือเมื่อเรามองเห็นภาพยังไง ภาพฟิล์มที่ได้ก็จะออกมาแบบนั้น กล้องฟิล์ม SLR ได้พัฒนามาจากกล้องฟิล์ม RF จึงทำให้สามารถเปลี่ยนเลนส์ได้ มีความยืดหยุ่นในการใช้งานมากกว่า แต่กล้องฟิล์ม SLR จะขนาดที่ใหญ่ขึ้น พกพาลำบากกว่ากล้องฟิล์ม RF

-ใช้ลักษณะการทำงานของกล้องในการแบ่งประเภท จะสามารถแบ่งกล้องฟิล์ม ได้ 2 ประเภท

1.กล้องกลไกล หรือที่เรียกว่ากล้องแมคคานิค (Mechanic) คือ กล้องที่ขับเคลื่อนการทำงานม่านชัตเตอร์ด้วยตัวกลไกเฟือง แม้ไม่มีแบตเตอรี่ก็สามารถทำงานได้ ถ่ายภาพได้ จึงค่อนข้างมีความทนทาน

2.กล้องไฟฟ้า คือ กล้องที่ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบมอเตอร์ แผงวงจรไฟฟ้า ต้องใช้ต้องแบตเตอรี่ในการทำงาน ถ้าไม่มีแบตเตอรี่หรือแบตเตอรี่หมดจะไม่สามารถกดชัตเตอร์ได้ ไม่สามารถขึ้นไกฟิล์มได้ ไม่สามารถถ่ายรูปภาพได้เลย อายุการใช้งานจึงมีขีดจำกัด แต่กล้องไฟฟ้าจะมีความสะดวกในการพกพา ใช้งานได้คล่องตัวกว่ากล้องกลไก

-ใช้ฟังก์ชั่นของกล้องมาเป็นตัวแบ่งประเภท จะสามารถแบ่งกล้องฟิล์ม ได้ 3 ประเภท

1.กล้องออโต้ (Auto) คือ กล้องฟิล์มที่ไม่ต้องปรับค่าของกล้องในการใช้งาน เช่น การปรับสปีดชัตเตอร์ การปรับรูรับแสงเพียงแค่เล็ง และโฟกัสก็สามารถกดชัตเตอร์ถ่ายภาพได้เลย

2.กล้องกึ่งออโต้ คือ กล้องฟิล์มที่มีการปรับแค่รูรับแสง ส่วนการปรับสปีดชัตเตอร์ ระบบกล้องจะคำนวนค่าแสงและเลือก Speed Shutter ที่เหมาะสมให้เองโดยที่เราไม่ต้องปรับ เรียกระบบนี้ว่า Aperture Priority 

3.กล้องแมนนวล (Manual) คือ กล้องที่ต้องปรับรูรับแสงแสะสปีดชัตเตอร์เองทั้งหมด ตัวกล้องจะมีระบบวัดแสง ที่สามารถแสดงการประมาณแสงที่เข้ามาในกล้องได้ โดยแสดงผลเป็นแบบเข็มหรือแบบไฟ LED 

แม้ในปัจจุบันจะมีกล้องดิจิตอล หรือกล้องบนโทรศัพท์มือถือที่มีคุณภาพดีแค่ไหน แต่การใช้กล้องฟิล์มก็ยังคงเป็นเสน่ห์ที่ชวนน่าหลงใหลอยู่เสมอ ต่อให้มีการทำแอพพลิเคชั่นกล้องฟิล์มขึ้นมาก็ไม่อาจแทนที่กล้องฟิล์มจริงๆได้  และที่เหมือนจะเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้กล้องฟิล์มกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้งน่าจะมาจากการที่ผู้มีชื่อเสียง อย่าง ดารา นักร้อง ไอดอล ได้นำกล้องฟิล์มออกมาใช้ จึงทำให้เกิดเป็นกระแสกล้องฟิล์ม ถึงขนาดที่มีช่างภาพ ผู้ที่สนใจหลายคนหันมาสนใจเล่นและสะสมกล้องฟิล์มกันเป็นจำนวนมาก ทำให้ธุรกิจขายกล้องฟิล์มและฟิล์มถ่ายรูปกลับมามีชีวิตอีกครั้ง เรียกได้ว่าเสน่ห์ของกล้องฟิล์มเป็นอะไรที่ฆ่าไม่ตายจริงๆ  

 

สนับสนุนโดย   สมัคร Gclub

โมนาลิซ่า

ถึงแม้จะไม่มีหลักฐานปรากฎอย่างแน่ชัดว่าโมนาลิซ่านั้นเป็นใคร แต่ในชวงราวศรรตวรรษที่16นั้นได้มีการปรากฎขึ้นของภาพโมนาลิซ่าที่เป็นภาพวาดเปลือยกาย ทำให้ภาพวาดของสาวเปลือยกลายนี้นั้นได้มีการพูดถึงและเป็นที่โด่งดังอย่างมาก และด้วยตัวผู้วาดอย่าง Leonardo de vinci นั้นมีการกล่าวขานว่าตัวเขานั้นมีการรักร่วมเพศ และมีการสันนิษฐานไปว่า โมนาลิซ่านั้น

ไม่ใช่ผู้หญิงที่เป็นการวาดภาพเหมือนเพื่อจำแลงเพศของเด็กหนุ่มรูปงามคนหนึ่งซึ่งเป็นศิลปินที่มักจะมีการติดรูปเหล่านี้ไว่ตามสตูดิโอหรือสถานที่ที่เกี่ยวกับงานศิลปะ จึงมีการสันนิษฐานว่าเด็กหนุ่มคนนี้นั้นคือคนที่ Leonardo นั้นเลี้ยงไว้นั่นเอง

มีการนำภาพเหมือนของ Leonardo de vinci นั้นมาเปรียบเทียบกับภาพของโมนาลิซ่าและก็มีการสรุปตามข้อสันนิษฐานข้างต้นนั้นว่าโมนาลิซ่านั้นคือภาพวาดที่เป็นการภาพแฝงในการสร้างสรรค์ในตัวตนของ Leonardo de vinci นั่นเองแต่มีการจิตนาการและสร้างสรรค์ภาพวาดออกมาใหเมีการแต่งกายในลักษณะที่เป็นสตรีเพศ

โดยข้อสันนิษฐานนี้นั้นมีผู้ที่ได้ให้การสนับสนุนและมีการกล่าวเสริมว่าลายปักขดเชือกรอบคอเสื้อของโมนาลิซ่านั้นเป็นลายเซ็นลับของ Leonardo de vinci นั่นเองเพราะในภาษาอิตาเลียนความหมายของคำว่าขดเชือกนั้นตรงกับคำว่า Vinciley หรือคำเป็นชื่อย่อของ Leonardo de vinci นั่นเอง

แม้ว่าบุคคลในภาพวาดโมนาลิซ่านั้นยังคงเป็นสิ่งที่มีการถกเถียงกันอย่างไม่จบสิ้นว่าความแท้จริงแล้วนั้นบุคคลในภาพวาดเป็นใครกันแน่ แต่ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ที่ได้ครอบครองภาพวาดนี้นั้นยังพอจะมีข้อมูลที่น่าเชื่อถือได้อยู่บ้าง โดยผู้ที่ได้ครอบครองภาพวาดโมยาลอซ่าคนแรกนั้นก็คือกษัตริย์ฝรั่งเศสซึ่งมีการโปรดให้นำภาพโมนาลิซ่านั้นไปประดับที่ห้องโถงในพระราชวังและหลังจากมีการเปลี่ยนกษัตริย์ ภาพวาดโมนาลอซ่านั้นก็ได้ถูกย้ายไปยังห้องบรรทมและมีการเรียกชื่อภาพวาดนั้นอย่างสนิทสนมว่ามาดามลิซ่าด้วย

โดยภาพวาดโมนาลิซ่านั้นทั้งหมดทั้งมวลเป็นเพียงสิ่งที่มีการกล่าวสันนิษฐานเท่านั้น เพราะว่ายังไม่ได้มีหลักฐานชิ้นไหนที่จะแสดงได้อย่างแน่ชัดว่าความจริงแล้วนั้นโมนาลิซ่าเป็นใคร ก็ยังคงมีการตีความกันไปและยังคงเป็นสิ่งที่ผู้สนใจยังคงค้นหาคำตอบ และถึงแม้จะไม่ได้คำตอบอบ่างแน่ชัดว่าโมนาลิซ่านั้นเป็นมครอย่างน้อยเราก็ได้รับความรู้ใหม่ๆและได้เรียนรู้ถึงข้อสันนิษฐานต่างๆของโมนาลิซ่า

และโมนาลิซ่านั้นก็ยังคงเป็นภาพวาดที่ได้รับความนิยมอย่างมากมาจนถึงปัจจุบันถึงแม้ว่าเรานั้นจะไม่ทราบว่าโมนาลิซ่านั้นเป็นใครแต่เมื่อมองภาพวาดแล้วนั้นเราก็เห็นได้ถึงความสวยงามและรอยยิ้มอันมีความสุขที่โมนาลิซ่านั้นได้มอบไว้ให้แก่ผู้ชมภาพศิละที่ชื่อว่าภาพวาดโมนาลิซ่านั่นเอง

.

 

สนับสนุนโดย   สล็อต ยิงปลา ฝากขั้น ต่ํา 100

จิตรกรรมและประติมากรรมของไทย เป็นอย่างไรในปัจจุบัน

ถึงแม้ว่าศิลปะของไทยในด้านจิตรกรรมและประติมากรรม จะมีความเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นมากเพียงใด แต่ก็ยังโดดเด่นอยู่ในกรอบเดิมๆ และยังไม่ได้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกอย่างแท้จริง แล้วรู้หรือไม่ว่าสิ่งใดที่กั้นขวางอยู่ วันนี้เรามี 2 ด้าน ที่ศิลปะไทยในด้านจิตรกรรมและประติมากรรมควรจะปรับปรุงมาฝากกัน 

ด้านที่หนึ่ง 

ศิลปะของไทยเรา ไม่เปิดกว้าง หรือยินยอมที่จะปรับให้สามารถเข้ากับสังคมแบบสมัยใหม่ได้

ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น? เพราะศิลปะของเรามีการตีกรอบ ตีเส้น มีข้อกำหนด หรือกฎเกณฑ์อยู่มากมาย ซึ่งจริงๆ แล้ว คำว่า ศิลปะ หรือสิ่งใดที่ได้ขึ้นชื่อว่าศิลปะ  ไม่สมควรมีข้อผูกพันธ์ด้วยข้อกำหนดอะไรก็ตามเลย การชื่นชมงานศิลปะในไทยยังคงอยู่ในวงที่แคบ ยึดติดกับสิ่งเดิมๆ แล้วก็กลายเป็นค่าความนิยม ทั้งๆ ที่กฎเกณฑ์นั้นมาจากบุคคลเพียงไม่กี่คน หรือบางกลุ่ม 

โดยความเป็นจริงแล้ว ค่าของงานศิลปะไม่สมควรถูกตีค่าโดยนักแสดงศิลปะไทย หรือคนภายในแวดวงเพียงแค่นั้น เเต่คนธรรมดาทั่วไป ก็มีสิทธิ์ที่จะชื่นชอบและถูกใจงานศิลปะในแบบที่แตกต่างจากเดิมได้  มีสิทธิ์ที่จะมีส่วนร่วมสำหรับการตีค่างานศิลปะได้ด้วยเหมือนกัน

เมื่อศิลป์ไทยยังถูกตีกรอบตามเดิมอย่างที่เป็นค่านิยมตามกันมา การสร้างสรรค์งานศิลป์ที่หลากหลายก็เลยมีปัญหา แบบนี้หากจะพูดว่าเด็กเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยสนใจงานศิลปะไทย หรือโทษเด็กๆ อย่างเดียวคงไม่ได้ ในเมื่อการเข้าถึงยังคงมีความสลับซับซ้อน และถูกบดบังโดยคนเฉพาะกลุ่มอยู่

 

ด้านที่สอง

ศิลปะไทยไม่ทันบริบทของโลก และเทคโนโลยีที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว

โลกใบนี้ได้หมุนไปทุกวัน การพัฒนาสิ่งต่างๆ ก็เกิดขึ้นมากมายเช่นกัน จนตอนนี้เราได้พัฒนามาจนถึงสังคมดิจิทัลแล้ว คนภายในแวดวงศิลปะไทยยังมีความรู้เดิมๆ และไม่ค่อยเปิดรับที่จะรู้เรื่องในเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่มีอยู่มาก เมื่อขาดความเข้าใจด้านนี้ ศิลปะไทยจึงราวกับเป็นคนที่วิ่งย่ำอยู่ตำแหน่งเดิม ไม่เดินหน้า ไปซ้าย หรือขวา  ยิ่งกว่านั้นแล้ว ตัวนักแสดงศิลปะไทยบางคนยังไม่ยินยอมเปิดใจรับกับความรู้ใหม่ๆ ยังคงตีกรอบในแบบเก่าอยู่ นักแสดงรุ่นเก่า จึงจำต้องปรับปรุงตนเองใหม่ให้ไว และเรียนรู้ปรับปรุงตามการเปลี่ยนเเปลงของโลกให้ได้

 

หนทางใหม่ที่จะทำให้ศิลปะไทย เป็นที่รู้จักยอมรับไปทั่วโลก คือ การรับการเปลี่ยนแปลงของโลก เเล้วพร้อมที่จะก้าวไปกับมัน การเปิดเผยผลงาน ไม่หวงแหนวิชาความรู้ สร้างแรงผลักดัน โดยใช้พื้นที่สื่อออนไลน์ เทคโนโลยีที่ล้ำสมัยเข้ามาช่วย เพื่อให้ผลงานนั้นไม่ล้าหลัง และพัฒนาอยู่เสมอเพื่ออยู่รอด และเฉิดฉาย

หากเราลองพัฒนาผลงานทางด้านศิลปะแล้วหลุดออกมาจากกรอบเดิมๆ ทุกท่านจะเห็นได้เลยว่า แท้จริงแล้ว ศิลปะไทยยังสามารถไปต่อได้อีก

 

 

สนับสนุนโดย  จีคลับคาสิโนออนไลน์

ถ่ายลองชุดหน้ากระจก

ถ่ายลองชุดหน้ากระจก หนึ่งในเทคนิคการถ่ายรูปกับกระจกให้น่าสนใจ

ในการถ่ายภาพเชิงพานิชย์นั้นจะเห็นได้ว่า เราจะเห็นภาพแนวนี้เยอะมากๆ ตากล้องหลายๆคนก็จะให้ภาพแบบนี้เป็นการเล่นเรื่องของสาวๆ หรือว่าเรื่องของชุด หรือว่าเรื่องการการโปรโมทห้องหรือคอนโดก็เป็นได้ แต่มีน้อยรายนะ ที่จะถ่ายภาพแบบนี้เล่นกันเองเพื่อลงโซเชียล แต่ไม่ใช่จะคิดว่า ฉันก็ถ่ายบ่อยนะ ถ่ายหน้ากระจกเองลงเอง ไม่ใช่แบบนั้น เพราะการถ่ายเทคนิคแบบนี้นั้น

จะต้องเป็นคนอื่นถ่าย เหมือนเป็นมุมมองคนที่สองที่มองตัวแบบผ่านกระจก ไม่ใช่การที่ตัวแบบถ่ายเองแบบนั้น ดังนั้นแล้วการถ่ายแนวนี้เป็นอะไรที่น่าสนใจมากๆ ทำออกมาแล้วจะดูน่ารักสดใสมากๆเลยล่ะ แต่ก็อาจจะดูร่าเริงจนดูหน้าหมั่นไส้ก็ได้นะ เพราะมันดูออกว่าเป็นการจัดฉากนั้นเอง เพราะฉะนั้นแล้วเราก็เลยเห็นการถ่ายภาพแบบนี้บ่อยๆกับการถ่ายงานมากกว่า เพราะมันเกิดการจัดฉากอยู่แล้วนั้นเอง

เทคนิคนี้ไม่ยากในการถ่าย แต่ก็ต้องขอบอกว่าถ้าเป็นการถ่ายในห้องเราเองนั้นยากพอควร เพราะเรื่องของสถานที่ซะมากกว่า ไม่ใช่เรื่องของการถ่าย เพราะมันจำเป็นจะต้องจัดฉากให้ดูไม่รก ให้ดูสวยในสไตล์ห้องแบบมินิมอล แล้วก็ต้องตั้งกรอบที่เห็นทั้งกำแพง ทั้งพื้น ทั้งตัวกระจกให้เห็นทั้งบานนั้นเอง บ้านของคนที่จะมีมุมที่สะอาดสะอ้านและมีสไตล์แบบนี้ถือว่าหายากเลยทีเดียว

เพราะฉะนั้นกว่าจะได้ถ่าย ก็ต้องมีการจัดฉากกันหน่อยเสียเวลาเป็นวันๆแน่ๆล่ะ ฮ่าๆ ยิ่งห้องผมนะ ขอบอกเลยว่ายากมากๆ ต่อมาก็ต้องหากระจกที่สูง ที่สามารถเห็นได้ทั้งตัว และแถมยังต้องมีขอบที่สวยและมีสไตล์อีกด้วย ไม่งั้นก็ดูเป็นกระจกห่วยๆ เมื่อจัดอะไรเสร็จทั้งหมดแล้ว ต่อมาก็คือแสง ใช้แสงของห้องนั้นไม่เพียงพอให้ภาพนั้นสวยอย่างแน่นอน ต้องใช้แสงจากข้างนอกให้จ้าพอที่ภาพจะดูมีความสดใสนั้นเอง

ห้ามใช้แสงที่ทำให้ห้องดูมืดสลัวเลยทีเดียว ไม่เช่นนั้นจะทำให้ภาพผิดไปจากสิ่งที่เราอยากจะบอกคนเห็น ต่อไปขึ้นตอนสุดท้ายคือการถ่าย ก็ง่ายๆล่ะ เพียงแค่ตากล้องต้องยืนเยื้องๆกับกระจกเงาให้เห็นตัวแบบเต็มตัว รวมทั้งห้ามเห็นตัวเองในกระจกเงาด้วย เพียงแค่นั้นก็ถ่ายได้เลย เหลือเพียงให้แบบแอคท่าน่ารักๆสดใสไปเรื่อยๆเพียงแค่นั้น แต่ก็อย่างที่บอกไปว่า อย่าร่าเริงจนเกินเหตุล่ะ เดี๋ยวมันจะดูน่ามั่นไส้จนเกินไป ไว้โอกาสเหมาะๆเราก็สามารถถ่ายเทคนิคนี้ได้

 

สนับสนุนโดย  บาคาร่าขั้นต่ำ 10 บาท