การสนับสนุนองค์กร

กุญแจสำคัญในความมุ่งมั่นและความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานในช่วงการแพร่ระบาด เป็นเวลาเกือบสองปีแล้วที่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ผู้คนทำงานได้ยากขึ้น นอกจากหน้าที่การงานตามปกติแล้ว ผู้คนยังต้องกังวลเกี่ยวกับสุขภาพของตนเองและคนที่ตนรักด้วย

พวกเขาเผชิญกับความไม่แน่นอนที่เพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับอนาคต และต้องเรียนรู้วิธีการทำงานใหม่ๆ เมื่อพิจารณาถึงแรงกดดันเพิ่มเติมนี้

จึงไม่น่าแปลกใจที่พนักงานรายงานว่ารู้สึกมีความสุขในการทำงานน้อยลงนับตั้งแต่เริ่มมีการแพร่ระบาด การแพร่ระบาดยังได้ทำลายความมุ่งมั่นของพนักงานที่มีต่อองค์กรของพวกเขาด้วย เนื่องจากบริษัทต่างๆ หันมาใช้โมเดลการทำงานจากระยะไกลมากขึ้น

พนักงานจึงมีเหตุผลน้อยลงเรื่อยๆ ที่จะรู้สึกผูกพันกับที่ทำงาน เนื่องจากการโต้ตอบของมนุษย์ตามปกติถูกแทนที่ด้วยการสนทนาทางวิดีโอ เมื่อเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนี้ นายจ้างต่างตั้งคำถามว่า องค์กรต่างๆ จะทำอะไรได้บ้างเพื่อลดผลกระทบเชิงลบจากการระบาดใหญ่ที่มีต่อพนักงานของตน

การสนับสนุนจากองค์กรสามารถลดความเสียหายจากการแพร่ระบาดได้ เป็นคำถามนี้เองที่ฉันตั้งเป้าที่จะศึกษาในการศึกษาคนเกือบ 300 คนที่ทำงานเต็มเวลา

ผลลัพธ์ระบุว่าขอบเขตที่โรคระบาดส่งผลกระทบต่อพนักงานนั้นขึ้นอยู่กับวิธีที่นายจ้างตอบสนองต่อวิกฤติเป็นหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การศึกษาของเราชี้ให้เห็นว่าองค์กรต่างๆ สามารถลดผลกระทบด้านลบของการแพร่ระบาดได้โดยการดำเนินมาตรการสนับสนุน

หากสถานที่ทำงานให้การสนับสนุนประเภทนี้ ก็จะทำให้พนักงานรู้สึกมีความมุ่งมั่นมากขึ้น ซึ่งนำไปสู่ความรู้สึกเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานมากขึ้น

การสนับสนุนจากองค์กรมีความสำคัญมาก เนื่องจากพนักงานมีความสัมพันธ์ “แลกเปลี่ยนกันซ้ำๆ” กับสถานที่ทำงานของตน พนักงานสละเวลาและความพยายามในสถานที่ทำงานของตน และในทางกลับกัน พวกเขาก็จะได้รับความคาดหวังบางอย่างจากองค์กร เช่น เงินเดือนและความมั่นคงในการทำงาน

การแพร่ระบาดครั้งนี้ถือเป็นช่วงเวลาแห่งความจริงสำหรับคนทำงาน พวกเขาใช้มันเพื่อพิจารณาว่าพวกเขาสามารถพึ่งพาองค์กรของตนเพื่อช่วยเหลือในสถานการณ์วิกฤติได้หรือไม่ เมื่อองค์กรเผชิญกับความท้าทาย พนักงานตระหนักดีว่านายจ้างสามารถปฏิบัติหน้าที่ของตนต่อตนได้สำเร็จ และมีแนวโน้มมากขึ้นที่จะยังคงมุ่งมั่นต่อองค์กรของตน

การสนับสนุนขององค์กรไม่เพียงแต่เกี่ยวกับเงินเท่านั้น องค์กรต่างๆ สามารถช่วยเหลือพนักงานของตนในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้หลายวิธี ในระดับพื้นฐานที่สุด มีมาตรการที่จะช่วยลดความยุ่งยากบางประการที่เกี่ยวข้องกับการทำงานที่จำเป็น ตัวอย่างเช่น การจัดหาอุปกรณ์สื่อสารที่เหมาะสม

ความช่วยเหลือในการตั้งค่าสิ่งอำนวยความสะดวกในการทำงานที่บ้าน และการเพิ่มความยืดหยุ่นในการจัดตารางเวลา ล้วนเป็นวิธีที่ช่วยให้ผู้คนทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ว่าจะมีความท้าทายใหม่ๆ ก็ตาม นอกจากนี้ องค์กรต่างๆ ยังสามารถแสดงให้พนักงานเห็นว่าพวกเขาใส่ใจ

โดยรับทราบถึงความพยายามพิเศษที่จำเป็นในการทำงานในช่วงการแพร่ระบาด การทำงานในช่วงที่มีโรคระบาดถือเป็นการเล่นกล ผู้นำธุรกิจจำเป็นต้องตระหนักถึงสิ่งนี้และแสดงความขอบคุณต่อพนักงานที่สร้างสมดุลระหว่างงานหลายอย่างและความรับผิดชอบส่วนตัว (เช่น การดูแลเด็กๆ ในช่วงโรงเรียนปิด)

 

สนับสนุนโดย    ufabet เว็บตรง

ที่มาของวันสารทจีน

ที่มาของวันสารทจีน มีดังนี้

นอกจากเทศกาลที่กินเจแล้ว ไหว้พระจันทร์แล้วยังมีเทศกาลสารทจีนอีกหนึ่งประเพณีของคนจีนเพราะว่าเราสืบทอดมาตั้งแต่รุ่นโบราณ เพราะว่าวันสาทรจีนนั้นหนึ่งปีนั้นมีครั้งเดียวที่ทำให้ครอบครัวหลายครอบครัวนั้นมารวมตัวกันเพราะว่าต้องมาไหว้บรรพบุรุษของแต่ละคนนั่นเองจึงทำให้หลายครอบครัวนั้นมารวมตัวกันมากินข้าวพร้อมหน้ากันซึ่งก็ถือว่าเป็นอีกวันที่ทำให้เหล่าคนจีนนั้นมารวมตัวเป็นวันที่ทำให้เจอญาติพี่น้องได้มานั่งพูดคุยกันนั่นเอง 

วันสารทจีน คือ    วันที่สำคัญวันหนึ่งของคนจีนเพราะว่าเหล่าบรรดาลูกหลานนั้นต้องมาแสดงความยินดีต่อบรรพบุรุษเพราะว่าคนจีนนั้นมีความเชื่อว่าเป็นวันที่ประตูวิญญาณนั้นเปิดเพื่อให้มารับบุญกุศลผลบุญที่เรานั้นทำไปให้อีกด้วย

เรื่องเล่าของวันสารทจีน    ตำนานของวันสารทจีนมีเองเล่าอยู่ว่าเป็นวันที่ยมบาลนั้นลงมาตรวจบัญชีแล้วส่งให้คนที่ตายนั้นไปอยู่บนสรรค์หรือว่าลงนรกและเป็นเรื่องเล่าที่สู่กันฟังคือเรื่องของมู่เหลียน  มู่เหลียนนั้นเป็นคนที่เคร่งในการที่เจอย่างมากแต่ด้วยว่าแม่ของมู่เหลียนนั้นไม่เป็นคนที่กินเจจึงทำให้มู่เหลียนต้องทำตามที่แม่เขาสั่งมีอยู่วันหนึ่งแม่ของมู่เหลียนนั้นได้ออกอุบายว่าให้มู่เหลียนนั้นไปชวนคนที่กินเจนั้นมากินข้าวที่บ้านเพราะว่าอยากที่จะเลี้ยงข้าวคนที่กินเจหนึ่งมื้อ

โดยให้มู่เหลียนนั้นไปชวนแต่รู้ไหมว่าสิ่งที่แม่ของมู่เหลียนนั้นทำผิดต่อผู้ที่ถือศีลและกินเจนั่นก็คือเขานั้นได้ทำกับข้างเลี้ยงคนที่ถือศีลโดยที่เขานั้นได้ใส่น้ำมันหมูลงในกับข้าวแล้วให้คนที่ถือศีลนั้นทานซึ่เป็นเรื่องที่ทำผิดอย่างมากจึงทำให้แม่ของมู่เหลียนนั้นตกนรกขุมที่ 8 ได้รับความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสและเมื่อแม่ของมู่เหลียนนั้นได้ตายไปเขาจึงได้รับความทรมานโดยที่เขานั้นไม่ได้กินอาหาร

  และยังถูกแย่งจากภูตผีวิญญาณจากนั้นด้วยความที่มู่เหลียนนั้นอยากจะรับกรรมแทน แต่ว่ายมบาลนั้นได้บอกว่ากรรมใครก็กรรมมัน และสิ่งเดียวที่มู่เหลียนนั้นทำเพื่อที่จะช่วยแม่ของเขาคือการสวดคัมภีร์อิ๋ว และการถวายอาหารเป็นประจำเพื่อให้แม่ของเขานั้นหลุดพ้นจากกรรมที่ทำ 

และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาจึงทำให้ชาวจีนนั้นได้สืบทอดการทำประเพณีนี้ด้วยการเซ่นไหว้บรรพบุรุษโดยที่มีอาหารคาวและหวาน  รวมไปถึงกระดาษเงินและกระดาษทองให้กับบรรดาวิญญาณญาติของตน