อธิบายเกี่ยวกับดาวประจำเมืองให้เข้าใจง่ายๆที

ดาวประจำเมืองหรือดาวพื้นเมือง (Pole Star) คือดาวที่อยู่ในทิศเหนือของโลกที่มีตำแหน่งคงที่และเป็นจุดอ้างอิงสำคัญในการนำทาง นักทำนายดาวและนักนำทางต่างๆใช้ดาวประจำเมืองเพื่อช่วยในการหาทิศทาง

ดาวประจำเมืองที่เราใช้ในปัจจุบันคือดาวโพลาริส (Polaris) หรือที่เรียกกันอีกชื่อหนึ่งคือดาวเหนือ (North Star) ดาวนี้ตั้งอยู่ในทิศทางเหนือและอยู่ในทิศทางทำมุมโดยใช้เส้นมุมแกนโลก ดาวโพลาริสมีความสว่างที่คงที่และไม่เคลื่อนที่มากนัก ดังนั้นเป็นจุดอ้างอิงที่น่าไว้วางใจในการนำทาง

 การใช้ดาวประจำเมืองในการนำทางมีวิธีการง่ายๆ, คุณสามารถหาดาวโพลาริสได้โดยการใช้ตัวอ้างอิงอื่น ๆ ที่อยู่ในทิศเหนือ เช่น การใช้ดาวทางตะวันออกในตอนเย็นหรือดาวอื่นๆที่อยู่ใกล้ดาวโพลาริส การมองหาดาวนี้ในทิศเหนือจะช่วยให้คุณทราบทิศทางที่ถูกต้อง

 ดาวประจำเมืองเป็นองค์ประกอบที่สำคัญในวงศ์วานทางศาสนาและวัฒนธรรมของหลายชนเผ่า มีนำโบราณที่ใช้ดาวประจำเมืองเป็นตัวชี้ทางในการนำทางในการเดินทางที่เมืองต่างๆที่สร้างขึ้นในสมัยโบราณ

 

สามารถมองเห็นดาวประจำเมืองได้จากที่ไหน

การมองเห็นดาวประจำเมืองขึ้นอยู่กับที่ที่คุณตั้งอยู่บนโลก ดาวประจำเมืองที่ใช้ในภาคเหนือของโลกคือดาวโพลาริส (Polaris) หรือที่เรียกกันอีกชื่อหนึ่งคือดาวเหนือ (North Star)

 ภาคเหนือ: ถ้าคุณอยู่ในภาคเหนือของ บริวาร์ ณ ทิศทางทำมุมโดยใช้เส้นมุมแกนโลก คุณสามารถมองเห็นดาวโพลาริสตรงข้ามกับทิศทางที่โลกหมุน ดาวโพลาริสจะอยู่ในทิศทางทำมุมโดยใช้เส้นมุมแกนโลก

 ภาคใต้: ในภาคที่ต่างออกไปจากภาคเหนือ, การมองเห็นดาวโพลาริสอาจจะยากขึ้น แต่ยังสามารถใช้ดาวอื่นๆที่อยู่ใกล้ดาวโพลาริสเพื่อช่วยในการนำทาง

 การมองเห็นดาวโพลาริสด้วยตาเปล่าเห็นได้ตลอดปี, และมันไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องมือพิเศษ ความสว่างของดาวโพลาริสทำให้มันเป็นจุดที่สามารถมองเห็นได้ในสภาพแวดล้อมที่มีแสงสว่างน้อย เช่น ในท้องฟ้าที่มีมลพิษน้อยหรือนอกนครที่ไม่มีแสงจากไฟฟ้าที่มีมาก

 

อยู่ภาคกลางของไทยสามารถมองเห็นดาวประจำเมืองได้หรือไม่

ในภาคกลางของไทย การมองเห็นดาวประจำเมืองที่เรียกว่าดาวโพลาริส (Polaris) อาจมีความยากลำบากมากขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับภาคเหนือของโลก ดาวโพลาริสตั้งอยู่ในทิศทางทำมุมโดยใช้เส้นมุมแกนโลก และมีทิศทางที่ตรงข้ามกับแกนหมุนของโลก

นภาคกลางของไทย ดาวโพลาริสจะอยู่ในทิศทางทำมุมโดยใช้เส้นมุมแกนโลก แต่จะไม่ตรงหน้ากับทิศทาง นอกจากนี้ ในบางวันหรือช่วงเวลาที่ท้องฟ้ามีความมืดพอ การมองเห็นดาวโพลาริสอาจจะเป็นไปได้

หากคุณต้องการใช้ดาวประจำเมืองในการนำทางในภาคกลางของไทย ควรพิจารณาใช้ดาวอื่นที่อยู่ใกล้ดาวโพลาริสเพื่อช่วยในการนำทางหรือใช้เทคโนโลยีช่วยนำทางเพื่อความสะดวก

 

สนับสนุนโดย    huaylike เข้าสู่ระบบ

จุดเริ่มต้นของการวาดภาพ จำเป็นที่จะต้องรู้อะไรบ้าง

การวาดภาพมีหลายวิธีและสไตล์ต่าง ๆ ซึ่งการเริ่มต้นอาจแตกต่างกันไปตามวัตถุประสงค์และสไตล์การวาดของแต่ละคน อย่างไรก็ตาม มีบางขั้นตอนที่จะเป็นประโยชน์ในการเริ่มต้นในการวาดภาพ เช่น

1.การรวบรวมวัสดุ: ตั้งแต่กระดาษ, ดินสอ, สี, แปรง, หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ที่คุณต้องการใช้ในการวาดภาพ

2.การเลือกหัวข้อ: คิดให้ดีว่าคุณต้องการวาดภาพของอะไร มันอาจเป็นสิ่งต่าง ๆ เช่น ภาพตัวละคร, ภาพธรรมชาติ, หรืออื่น ๆ

3.การวาดเค้าโครง: การเริ่มต้นโดยการวาดเค้าโครงหรือร่างก่อนจะช่วยให้คุณมีพื้นฐานที่แน่นอนสำหรับภาพของคุณ

4.การใช้เส้นที่อ่อนและเบราว์: ตั้งแต่เริ่มต้น, การใช้เส้นที่อ่อนและเบราว์ช่วยให้คุณสามารถปรับขนาดและรูปร่างของภาพได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องทำให้มันดูยุ่งเหยิง

5.การทำความเข้าใจในแง่มุม: การเริ่มต้นจากการทำความเข้าใจในแง่มุมของภาพที่คุณต้องการวาด ระบุว่าภาพนั้นมองเห็นจากแง่มุมใด

นอกจากนี้ การวาดภาพมักจะเป็นกระบวนการที่ต้องฝึกฝนและปรับปรุงตลอดเวลา ดังนั้นอย่าลืมที่จะฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอเพื่อพัฒนาทักษะของคุณในการวาดภาพด้วย

 

สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับการวาดภาพ

การวาดภาพเป็นศิลปะที่มีความหลากหลายและมีเทคนิคต่าง ๆ ที่ควรรู้เพื่อช่วยให้ภาพของคุณดูดีและมีความสมจริงมากขึ้น นี่คือบางสิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับการวาดภาพ

1.การเรียนรู้พื้นฐาน: เริ่มต้นจากการเรียนรู้เรื่องพื้นฐานเกี่ยวกับสัดส่วน, แสงและเงา, การใช้สี, การวาดเส้นโครง, และอื่น ๆ

2.การศึกษาวัตถุ: เข้าใจวัตถุที่คุณจะวาด รวมถึงโครงสร้าง, ลักษณะ, และลักษณะเฉพาะ เช่น พื้นผิว, และลักษณะทางกายภาพ

3.การฝึกฝนทักษะ: การฝึกฝนเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการพัฒนาทักษะในการวาด ฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอเพื่อปรับปรุงความสามารถของคุณ

4.การใช้สื่ออื่น ๆ: การศึกษาผลงานของศิลปินอื่น, การเข้าร่วมคลาสหรืออุตสาหกรรม, การดูวิดีโอการเรียนรู้, หรือการอ่านหนังสือเกี่ยวกับศิลปะ

5.การใช้เครื่องมือ: เรียนรู้เกี่ยวกับเครื่องมือที่ใช้ในการวาด เช่น ดินสอ, แปรง, หรือโปรแกรมดิจิตอล

6.การนำเสนอแง่มุม: การเลือกแง่มุมที่เหมาะสมสำหรับภาพของคุณเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ภาพดูมีชีวิตชีวามากขึ้น

7.การสร้างบรรยากาศ: การใช้สี, แสง, และเงาเพื่อสร้างบรรยากาศและความรู้สึกในภาพ

8.การทบทวนและปรับปรุง: อย่าลืมทบทวนภาพของคุณอย่างสม่ำเสมอ และพยายามปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นเรื่อย ๆ ตามที่คุณเรียนรู้และพัฒนาอยู่

การวาดภาพเป็นกระบวนการที่น่าสนุกและหลากหลาย ดังนั้นอย่าลืมที่จะสนุกกับการลงมือทำและสร้างผลงานที่น่าประทับใจ

 

สนับสนุนโดย    หวยดี

“วันเอดส์โลก” (World AIDS Day) เป็นวันที่ถูกกำหนดขึ้นเพื่ออะไร

“วันเอดส์โลก” (World AIDS Day) เป็นวันที่ถูกกำหนดขึ้นเพื่อเป็นการระลึกถึงปัญหาเอดส์ (AIDS) ที่เกิดขึ้นทั่วโลก วันเอดส์โลกมักจะถูกสืบต่อไปเมื่อวันที่ 1 ธันวาคมของทุกปี การระลึกนี้เป็นโอกาสที่ทุกคนได้ร่วมกันสร้างความตระหนักและเข้าใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับการป้องกันและการรักษาโรคเอดส์

รวมถึงการสนับสนุนและการประสานงานกับผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือที่เป็นโรคเอดส์อย่างเป็นระบบ การประชาสัมพันธ์และการกระตุ้นความตระหนักในวันนี้มีบทบาทสำคัญในการลดการติดเชื้อเอดส์และพัฒนาการดูแลสุขภาพสำหรับผู้ป่วยเอดส์ในทั่วโลก

สาเหตุที่มีการจัดวันเอดส์โลก คืออะไร

การจัดวันเอดส์โลกเกิดขึ้นเนื่องจากความเร่งรีบของการระบาดของเอดส์ (HIV/AIDS) ในทศวรรษที่ 20 ที่ผ่านมา โรคเอดส์เป็นโรคติดเชื้อที่มีผลกระทบรุนแรงต่อสุขภาพและชีวิตของมนุษย์ โดยเฉพาะในช่วงต้นของการระบาดที่เริ่มในปี ค.ศ. 1980 ซึ่งเกิดขึ้นอย่างรุนแรงในหมู่กลุ่มที่มีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น กลุ่มที่ใช้สารเสพติดเป็นต้น

การระบาดของเอดส์ได้สร้างความตกใจและความเป็นห่วงในทุกซอกทุกมุมของโลก เป็นเหตุผลที่นำพาการจัดตั้งวันเอดส์โลกขึ้น ซึ่งเป็นโอกาสสำหรับการระลึกถึงปัญหาของโรคเอดส์ การสนับสนุนผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ การเชื่อมโยงการดำเนินงานในระดับท้องถิ่นและนานาชาติ และการสร้างความตระหนักรู้ในการป้องกันโรคเอดส์ในสังคมทั้งหมด

โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญคือการลดการติดเชื้อเอดส์ การเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของผู้ติดเชื้อเอดส์ และการเพิ่มความเข้าใจและการสนับสนุนต่อผู้ที่มีความเสี่ยงและต้องการความช่วยเหลือในการป้องกันและรักษาโรคเอดส์

จุดประสงค์ของการจัดตั้งวันเอดส์โลกขึ้นคือ

วันเอดส์โลกถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อทำให้คนรับรู้ถึงปัญหาของโรคเอดส์ (HIV/AIDS) และการกระทำที่สามารถทำให้ลดการติดเชื้อและประสานงานเพื่อให้มีการดูแลสุขภาพที่ดีขึ้นสำหรับผู้ติดเชื้อเอดส์และคนที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อในอนาคต จุดประสงค์หลักของวันเอดส์โลกได้รวมถึง

1.การเพิ่มการตระหนักรู้: การประชาสัมพันธ์และการกระจายข่าวที่เกี่ยวกับโรคเอดส์ เพื่อเพิ่มความเข้าใจในประชาชนเกี่ยวกับปัจจัยที่มีส่วนสำคัญในการป้องกันและควบคุมโรค

2.การสนับสนุนและการป้องกัน: การวางแผนและการกระทำที่เน้นไปที่การป้องกันการติดเชื้อใหม่และการเสริมสร้างการป้องกันที่มีประสิทธิภาพ

3.การพัฒนาบริการ: การส่งเสริมการเข้าถึงบริการด้านการดูแลสุขภาพที่มีคุณภาพสำหรับผู้ติดเชื้อเอดส์และกลุ่มเสี่ยงอื่นๆ

4.การลดสถานะความเป็นไปได้ของโรค: การสนับสนุนการศึกษาเพื่อลดการติดเชื้อและความเสี่ยงของการติดเชื้อโรคเอดส์ในสังคม

โดยการระบุจุดประสงค์เหล่านี้ เป้าหมายของวันเอดส์โลกคือการสร้างความตระหนัก การกระตุ้นการป้องกัน และการสนับสนุนในการดูแลสุขภาพสำหรับผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือในการรับมือกับโรคเอดส์ในทั่วโลก

 

สนับสนุนโดย    หวยดี.com

ต้นกำเนิดของศาสนาพุทธและความเป็นมาของศาสนาพุทธ

ศาสนาพุทธมีต้นกำเนิดจากประเทศอินเดียในศตวรรษที่ 6 ก่อนคริสตกาล โดยมีสมเด็จพระสุทธิมงคล (Siddhartha Gautama) เป็นผู้ก่อตั้งศาสนาพุทธ

เขาเกิดในเมืองลุมพินี (Lumbini) ในบริเวณที่เป็นปัจจุบันของประเทศเนปาลและโตขึ้นในสมบัติสง่าของราชวงศ์ของเขาในเมืองคัปิลวัตต์ (Kapilavastu) ที่ตอนเหนือของอินเดีย

เมื่อพระสุทธิมงคลตระเวนรอบบริเวณเพื่อตามหาคำตอบเกี่ยวกับความทุกข์และความเจ็บปวดในชีวิตมนุษย์ และพบเส้นทางสู่การตรัสรู้และการผ่อนคลายจากความทุกข์ พระเจ้าสุทธิมงคลได้นำเสนอปรัชญาและวิธีการในการหลีกเลี่ยงความทุกข์แก่ผู้ตายตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ซึ่งเป็นเบื้องหน้าของศาสนาพุทธ

จากนั้น พระสุทธิมงคลได้สร้างสังฆราชานุสรณ์ (Sangha) ซึ่งเป็นชุมชนของพระสงฆ์และผู้ศรัทธา และเริ่มสอนคำสอนของเขาต่อสมาชิกในสังฆราชานุสรณ์ ซึ่งก็เป็นจุดเริ่มต้นของการแพร่หลายของศาสนาพุทธจากภูมิภาคอินเดียไปยังภูมิภาคอื่น ๆ ของเอเชียและโลกใบนั้น

ซึ่งเป็นที่มาและต้นกำเนิดของศาสนาพุทธที่เรารู้จักในปัจจุบันได้นับถือว่าเป็นพระพุทธเจ้าและสังฆราชานุสรณ์ในศาสนาพุทธเป็นองค์ประกอบสำคัญที่รักษาไว้ในการศึกษาและศาสนาด้วยกันและจะยังคงสึกษาอยู่ในชุมชนศาสนาพุทธทั่วโลก

ในปัจจุบันด้วยการศึกษาและการปฏิบัติงานทางศาสนา ซึ่งเป็นที่มาและต้นกำเนิดของศาสนาพุทธที่เรารู้จักในปัจจุบันได้นับถือว่าเป็นพระพุทธเจ้าและสังฆราชานุสรณ์ในศาสนาพุทธเป็นองค์ประกอบสำคัญที่รักษาไว้ในการศึกษาและศาสนาด้วยกันและจะยังคงสึกษาอยู่ในชุมชนศาสนาพุทธทั่วโลกในปัจจุบันด้วยการศึกษาและการปฏิบัติงานทางศาสนา

การเคารพและการกราบไหว้เป็นประการที่สำคัญในศาสนาพุทธ โดยมีหลายวิธีและเหตุผลที่เกี่ยวข้องกับการกราบไหวนี้ เช่น

1.การกราบไหวต่อพระพุทธเจ้า: การเคารพและกราบไหวต่อพระพุทธเจ้าเป็นที่สำคัญในศาสนาพุทธ ผู้ศรัทธาพุทธมักจะกราบไหวต่อภาพพระพุทธเจ้า รวมถึงการสวดมนต์และพูดคำสวดอื่น ๆ เพื่อแสดงความเคารพและเสนอบรรณาธิการต่อพระพุทธเจ้า

2.การกราบไหวต่อพระสงฆ์: นอกจากนี้ การเคารพและกราบไหวต่อพระสงฆ์ หรือผู้ในสังฆราชานุสรณ์ ก็เป็นสิ่งที่สำคัญ เนื่องจากพระสงฆ์ถือเป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้าและผู้ตระเวนรอบบริเวณเพื่อสอนศาสนา

 

ได้รับการสนับสนุนโดย    คาสิโนเวียดนาม

ประวัติวันตรุษจีนหรือเทศกาลตรุษจีน

วันตรุษจีน เรียกอีกชื่อว่า ตรุษจีน หรือเทศกาลตรุษจีน เป็นเทศกาลสำคัญที่สุดของชาวจีนทั่วโลก ซึ่งเริ่มต้นในวันเปิดตัวของดวงจันทร์ใหม่ในปีที่เกิดการตรงต่อกับการเคลื่อนไหวของดวงจันทร์และดวงอาทิตย์

ซึ่งมักเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 21 มกราคมถึง 20 กุมภาพันธ์ ตามปฏิทินสุริยคราฟวัลี และจะสิ้นสุดในวันเทศกาลไหว้พระสังฆราช เมื่อไหว้พระสังฆราชในวันเทศกาลตรุษจีนครั้งแรกของเดือนที่สองและสามวันนั้น นั้นจะถือว่าเป็นการเชิญชวนดวงจันทร์ที่เต็มดวงมาออกพระจันทร์ที่สามวันนั้น

 

ตรุษจีนมีประวัติการเป็นเทศกาลที่ยาวนานมากกว่า 4,000 ปี ตามฐานะของการศึกษาทางประวัติศาสตร์ นับตั้งแต่สมัยของจักรพรรดิโจว ในรัชสมัยของสวรรคต มีผลกระทบจากองค์การอเมริกันเพื่อการศึกษาที่จีนของที่ดินแห่งจีนที่ถูกทรยศไปเมื่อปี 1949

การปรับตัวทางสังคมในประเทศจีน ในช่วงเวลาหลังจากการเปิดเผยผลการประกวดของประเทศในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 ของสหรัฐอเมริกา ทำให้เทศกาลวันตรุษจีนมีลักษณะที่แตกต่างออกไป

วันตรุษจีนในปัจจุบันเป็นเทศกาลที่ทำให้คนเยือนพี่น้องบ้านกลับบ้านเพื่อรวมตัวกันในการทำกิจกรรมที่ต้องใช้เวลานาน ตั้งแต่การสำรวจถึงการป้องกันประหารชีวิตและการร่วมกับความแตกต่างในช่วงเวลานี้

 เทศกาลตรุษจีนมักจะมีการเปิดฉากด้วยการจุดเข้าสีแดงหรือการกระพือ ซึ่งมีความหมายเป็นการบรรลุประโยชน์ในการศรัทธาต่อพระองค์ของเทพเจ้า รวมทั้งการขอให้เกิดความสำเร็จและโชคดี ซึ่งกลายเป็นการเชื่อที่จริงในช่วงเวลานี้ในประเทศจีน นอกจากนี้ยังมีการทำการบ้านอย่างสมบูรณ์เพื่อพระเอกปลดปล่อยการทำบาปและสัญญาแก่พระองค์

 ในช่วงเวลาตรุษจีน กินข้าวขาวหรือข้าวเหนียวสีขาวจะมีความหมายเป็นสิ่งที่ใช้ในการบูชาเทพเจ้าและลูกเสือของเจ้า นอกจากนี้ยังมีการกินขนมจีนที่ทำจากแป้งสังเคราะห์ ซึ่งมักจะทำเป็นรูปแบบของพิมเสนหรือมังกร และการกินเป็นคู่เพื่อช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพี่น้องบ้าน นอกจากนี้ยังมีการแข่งขันการเข้าใจที่แตกต่าง

 

การกราบไหว้วันตรุษจีน หรือเทศกาลตรุษจีน

การกราบไหว้เป็นประเพณีทางศาสนาและวัฒนธรรมที่มีทั่วไปในหลายส่วนของโลก การกราบไหว้มีความหมายในการแสดงความเคารพและเคารพอาทิตย์ สิ่งสำคัญในการกราบไหว้รวมถึงการโปรยหรือการสั่งให้กับสิ่งบูชา ซึ่งอาจเป็นดอกไม้ อาหาร หรือเงิน เพื่อเป็นการแสดงความนับถือและอาสาสมัครต่อพระองค์ที่ถูกบูชา

 ในบางวัฒนธรรม เช่น ในศาสนาพุทธ การกราบไหว้มักจะเป็นการนั่งคำนึงหน้าพระนิพพาน และในศาสนาคริสต์ การกราบไหว้อาจจะเป็นการพิมพ์ขั้นต่ำหรือการเท้าจับ ในส่วนของศาสนาอิสลาม การกราบไหว้จะเป็นการออกหน้าที่ในทิศทางของมัสยิด ในวัฒนธรรมจีนและหลายวัฒนธรรมที่มีอิทธิพลจีน

การกราบไหว้เป็นประการปฏิบัติที่สำคัญในการเทศน์ต่าง ๆ และเป็นองค์ประกอบสำคัญในงานเทศกาลและพิธีศาสนา

 การกราบไหว้ในวัฒนธรรมจีนนั้นมักจะเกี่ยวข้องกับการเคารพและบูชาพระองค์ การกราบไหว้ในเทศกาลตรุษจีนนั้นมักจะเป็นการนำเสนออาหารและเครื่องดื่ม การเผยแพร่เป็นบุญที่ใหญ่โตเพื่อเสริมสร้างโชคลาภและความรุ่งเรืองให้กับครอบครัวและผู้ที่บูชา

การกราบไหว้ในเทศกาลตรุษจีนมักจะรวมถึงการต่อสู้ของขบวนและการแสดงขบวนที่ยิ่งใหญ่ในสิ่งสำคัญที่สำคัญเช่น เสือเหลืองและดาบ การพิธีกราบไหว้นี้มักจะเกิดขึ้นในวันตรุษจีนและระหว่างช่วงเย็นในสิ้นปีนั้น ๆ หรือช่วงเช้าในวันแรกของปีใหม่ได้ เพื่อเป็นการเชื่อที่จริงว่าจะทำให้เกิดโชคลาภและโอกาสดี ๆ ในปีถัดไป

 

สนับสนุนโดย     เว็บหวยดี

“กรุงรัตนโกสินทร์” เป็นชื่อที่ใช้เรียกเมืองหลวงของประเทศไทย

สำหรับ”กรุงรัตนโกสินทร์” เป็นชื่อที่ใช้เรียกเมืองหลวงของประเทศไทย โดยก่อนที่จะมีการเปลี่ยนชื่อเป็น “กรุงเทพมหานคร” ในปี 2477 จากนั้นกรุงรัตนโกสินทร์กลายเป็นอดีตของกรุงเทพมหานครที่เรารู้จักในปัจจุบัน นี่คือบางข้อมูลเกี่ยวกับอดีตของกรุงรัตนโกสินทร์

1.ต้นกำเนิด  กรุงรัตนโกสินทร์ถูกสร้างขึ้นในปี 1782 โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจักรราชอรรฆย์ (พระรามที่ I) เมื่อเขาย้ายกรุงศรีอยุธยามาตั้งที่ใหม่ หลังจากที่กรุงศรีอยุธยาถูกทำลายในสงครามกรุงศรีอยุธยา

2.สถาปัตยกรรม  กรุงรัตนโกสินทร์ได้รับการก่อสร้างโดยความหลากหลายทางศิลปะและสถาปัตยกรรม โดยเฉพาะทางด้านวัดและพระราชวัง ที่มีพระบรมมหาราชวังและวัดอรุณราชวรารามเป็นต้น

3.เมืองประตูมั่น  ชื่อ “รัตนโกสินทร์” มีความหมายว่า “ประตูมั่น” หรือ “ป้อมประตูที่แข็งแกร่ง” ซึ่งน่าจะมีต่อต้านการรุกราน และเป็นสัญลักษณ์ของความคงทนและแข็งแกร่งของเมือง

4.การพัฒนา  กรุงรัตนโกสินทร์ได้รับการพัฒนาต่อเนื่องในระหว่างการปกครองของพระบาทสมเด็จพระจุลจักรราชอรรฆย์ และต่อมาในสมัยรัชกาลต่อๆ มา

5.สถานที่ประวัติศาสตร์  มีหลายสถานที่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ในกรุงรัตนโกสินทร์ เช่น พระบรมมหาราชวังที่เป็นที่อยู่ของพระราชวังและพระบรมศพของพระมหากษัตริย์ วัดอรุณราชวรารามที่มีพระแก้วมรกตและพิพิธภัณฑ์พระนคร

6.การเปลี่ยนแปลง  ในระหว่างประวัติศาสตร์ กรุงรัตนโกสินทร์ได้รับการเปลี่ยนแปลงทั้งในด้านสถาปัตยกรรมวัฒนธรรม และการเมือง ทำให้เกิดเป็นเมืองที่ทันสมัยและหลากหลายทางด้าน

ในสมัยโบราณ กรุงรัตนโกสินทร์มีความสำคัญมากเนื่องจากเป็นเมืองหลวงของราชวงศ์ชั้นสูงและสถานที่ที่มีความสำคัญทางการท่องเที่ยว วัฒนธรรม และการค้า นี่คือบางจุดที่สำคัญของกรุงรัตนโกสินทร์ในสมัยนั้น

1.เมืองหลวงของราชวงศ์ชั้นสูง  กรุงรัตนโกสินทร์เป็นที่ตั้งของพระบรมมหาราชวังที่เป็นที่อยู่ของพระมหากษัตริย์และราชวงศ์ไทย เมืองนี้มีบทบาทสำคัญในการปกครองและพัฒนาประเทศ

2.ศูนย์กลางทางศาสนา  วัดอรุณราชวราราม (วัดพระแก้ว) เป็นที่ตั้งของพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว และมีประวัติทางศาสนาที่สำคัญ นอกจากนี้ยังมีวัดที่มีความสำคัญมากอื่นๆ ที่มีบทบาทในการสืบทอดศาสนาและวัฒนธรรมไทย

3.ศูนย์การค้า กรุงรัตนโกสินทร์เคยเป็นศูนย์การค้าที่สำคัญในภูมิภาคเอเชียตะวันออก และมีการค้ากับประเทศต่าง ๆ ทำให้เมืองนี้เติบโตและมีความร่ำรวย

4.สถานที่ท่องเที่ยว มีวัดและสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญมากมายในกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งเป็นที่ประทับของนักท่องเที่ยวทั่วโลก

5.การสร้างสถาปัตยกรรมที่สำคัญ กรุงรัตนโกสินทร์มีสถาปัตยกรรมที่สวยงามและมีความเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งเป็นที่ท่องเที่ยวสำคัญ

6.สถานที่จัดกิจกรรมสำคัญ เมืองนี้มีการจัดกิจกรรมทางวัฒนธรรม พิธีกรรม และงานสังสรรค์ต่าง ๆ ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และทางวัฒนธรรม

ทั้งนี้ทำให้กรุงรัตนโกสินทร์มีบทบาทสำคัญในการรวมรวมสังคมไทยในสมัยโบราณ และมีผลทำให้ประเทศไทยมีอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่หลากหลายและน่าสนใจมากยิ่งขึ้น

 

สนับสนุนเนื้อหานี้โดย  ufabet เว็บหลัก

ประวัติวัดอนงคารามวรวิหาร  กรุงเทพฯ 

  สำหรับวัดอนงคารามวรวิหาร  นั้นคือ วัดที่มีความสำคัญทางด้านพระพุทธศาสนา และยังเป็นวัดที่จุดแต่งตั้งให้เป็นวัดพระอารามหลวงชั้นโท  โดยวัดแห่งนี้นั้นอยู่ตรงบริเวณถนนสมเด็จเจ้าพระยาซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่คลองสาน  จังหวัดกรุงเทพฯ

เป็นวัดที่ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 3  โดย ผู้ที่มีเจตจำนงในการที่จะสร้างวัดแห่งนี้ขึ้นมานั้นก็คือท่านผู้หญิงน้อย 

ซึ่งพระองค์นั้นเป็นภรรยาของสมเด็จพระเจ้าบรมมหาพิชัยญาติหรือที่คนในสมัยโบราณนั้นเรียกกันว่าสมเด็จพระยาองค์น้อย   หรืออีกชื่อก็คือ ทัด บุนนาค   นั่นเอง 

สำหรับวัดอนงคารามวรวิหาร  นั้น หลังจากที่มีการสร้างเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้วท่านผู้หญิงน้อยและสมเด็จพระเจ้าพระยาองค์น้อยนั้นก็ได้มีการถวายวัดแห่งนี้ให้กับรัชกาลที่ 3 เพื่อเป็นวัดพระอารามหลวง  

โดยมีการตั้งชื่อวัดว่า  วัดน้อยขำแถม  ซึ่งเป็นการใช้ชื่อของท่านผู้หญิงน้อยผสมกับชื่อของเจ้าพระยาทิพากรวงมหาโกษาธิบดี  ที่มีชื่อเล่นว่าขำ  นำมาผสมกันเนื่องจากว่าเจ้าพระยาโกษาทิพากรวงษ์มหาโพษาธิบดีก็มีความสำคัญในการสร้างวัดน้อยคำแถมเช่นเดียวกันเพราะเป็นผู้ปฏิสังขรณ์วัดแห่งนี้ขึ้นมา

gclub   ดังนั้นจึงได้มีการนำชื่อของผู้ที่มีเจตจำนงในการก่อสร้างวัดแห่งนี้มารวมกันกลายเป็นชื่อวัดน้อยคำถามนั่นเอง

อย่างไรก็ตามเมื่อมีการถวายให้กับรัชกาลที่ 9 และได้ถูกแต่งตั้งเป็นวัดพระอารามหลวงชั้นโทเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อถึงยุคในสมัยของรัชกาลที่ 4 พระองค์ก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงชื่อวัดคำแขมขึ้นมาใหม่โดยชื่อใหม่นั้นถูกตั้งให้เป็นชื่อว่า วัดอนงคารามวรวิหาร  เพื่อให้เหมาะสมกับการเป็นวัดพระอารามหลวง

โดยภายในพื้นที่ของวัดนั้นก็ไม่ได้มีการก่อสร้างศาสนสถานไว้เยอะแยะมากมายเต็มไปหมดโดยเฉพาะอย่างยิ่งได้มีการก่อสร้างพระพุทธจุลนาคซึ่งเป็นพระพุทธรูปในสมัยกรุงสุโขทัยนำมาประดิษฐ์ฐานไว้ในพระวิหารเพื่อให้ประชาชนได้เข้าไปกับไหว้บูชา พระพุทธชินราชนั้นนับได้ว่าเป็นพระประธานของ วัดอนงคารามวรวิหาร นั่นเอง 

นอกจากนี้ภายในวัดนั้นยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่นๆเยอะแยะมากมายอย่างเช่นพระพุทธรูปพระสาวก  เช่นพระพุทธมังคโล  และยังมีพระมณฑป   รวมถึงพระพุทธไสยาสน์จำลอง   ที่สำคัญภายในบริเวณวัดนั้นยังได้มีการสร้างพิพิธภัณฑ์ขึ้นมาเปรมพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นเขตคลองสาน

เพื่อเป็นการบอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาและวิถีชีวิตของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในเขตคลองสานตั้งแต่ยุคในสมัยโบราณให้ประชาชนที่สนใจศึกษาข้อมูลของคนในยุคอดีตได้เข้ามาศึกษาหาความรู้กันอีกด้วย 

ประวัติวัดอรุณเกาะรัตนโกสินทร์ กรุงเทพมหานคร   

วัดอรุณเป็นวัดทรงจรวดที่ตั้งตระหง่านจากริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา รู้จักกันในชื่อวิหารแห่งรุ่งอรุณ โดยตั้งชื่อตามเทพเจ้าแห่งรุ่งอรุณของอินเดียชื่ออรุณ ที่นี่เองหลังจากการล่มสลายของกรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระเจ้าตากสินทรงสะดุดกับศาลท้องถิ่นเล็กๆ และทรงตีความการค้นพบนี้ว่าเป็นสัญญาณอันเป็นมงคลว่าที่นี่ควรเป็นที่ตั้งของเมืองหลวงแห่งใหม่ของสยาม  

ปัจจุบันวัดแห่งนี้เป็นหนึ่งในโครงสร้างที่โดดเด่นที่สุดของกรุงเทพฯ ไม่ต้องพูดถึงวัดพุทธไม่กี่แห่งที่คุณได้รับการสนับสนุนให้ปีนขึ้นไป    

จนกระทั่งเมืองหลวงและพระแก้วมรกตถูกย้ายมาที่กรุงเทพ วัดอรุณจึงมีลักษณะที่โดดเด่นที่สุด นั่นก็คือ þrahng (หอคอยสไตล์เขมร) ที่มีความสูง 82 เมตร การก่อสร้างหอคอยนี้เริ่มต้นในช่วงครึ่งแรกของคริสต์ศตวรรษที่ 19 โดยพระรามที่ 2 และต่อมาแล้วเสร็จโดยพระรามที่ 3 (พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ร. 2367–51)

บันไดสูงชันนำไปสู่ด้านบนซึ่งมองเห็นทิวทัศน์อันน่าทึ่งของแม่น้ำเจ้าพระยา สิ่งที่มองไม่เห็นจากระยะไกลคือกระเบื้องโมเสกลายดอกไม้อันวิจิตรงดงาม

ซึ่งทำจากเครื่องกระเบื้องจีนที่แตกหักหลายเฉดสี ซึ่งเป็นของประดับประจำวัดในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น เมื่อเรือของจีนแล่นมาที่ท่าเรือกรุงเทพฯ ได้ทิ้งเครื่องกระเบื้องเก่าจำนวนมากเป็นบัลลาสต์

ว่ากันว่าพระประธานในวัดว่ากันว่าออกแบบโดยพระราม 2 เอง ภาพจิตรกรรมฝาผนังมีอายุตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 

สิ่งที่น่าประทับใจอย่างยิ่งคือภาพที่เจ้าชายสิทธัตถะเผชิญตัวอย่างการเกิด แก่ เจ็บ และตายนอกกำแพงพระราชวัง ซึ่ง  ufabet   เป็นประสบการณ์ที่ทำให้เขาละทิ้งชีวิตทางโลก พระอัฐิของรัชกาลที่ 2 ฝังไว้ที่ฐานพระประธาน   วัดในบริเวณวัดอรุณตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 16 เป็นอย่างน้อย นักประวัติศาสตร์เชื่อว่าวัดมะกอกเดิมที่ทราบกันดีว่าก่อตั้งขึ้นริมฝั่งคลองลัด แต่จนกระทั่งปี พ.ศ. 2310 เมื่อสมเด็จพระเจ้าตากสินเสด็จข้ามวัด จึงมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์อย่างแท้จริง

สมเด็จพระเจ้าตากสินเสด็จข้ามสถานที่นี้ตอนพระอาทิตย์ขึ้นขณะหลบหนีผู้รุกรานจากพม่า ทรงตั้งสถานที่แห่งนี้เป็นวัดในวังและเปลี่ยนชื่อเป็นวัดแจ้ง จากนั้นวัดแห่งนี้ได้รับเลือกให้เป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกตซึ่งเป็นแพลเลเดียมที่น่ากลัวของประเทศไทย เมื่อถูกนำข้ามมาจากเวียงจันทน์ เมืองหลวงของประเทศลาวในปัจจุบัน ปัจจุบันอยู่ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำในวัดพระแก้ว

เมื่อกรุงเทพกลายเป็นเมืองหลวงใหม่ของประเทศไทย วัดก็เปลี่ยนชื่ออีกครั้งโดยพระรามที่ 2 คราวนี้เป็นวัดอรุณ รัชกาลที่ 2 ยังได้เริ่มขยาย þrahng ส่วนกลาง ซึ่งต่อมาสร้างเสร็จในปี พ.ศ. 2385 ในสมัยรัชกาลที่ 3 นอกจากงานบูรณะ þrahng บางส่วนซึ่งแล้วเสร็จในปี 2017 แล้ว ยังมีอะไรเปลี่ยนแปลงอีกเล็กน้อยที่วัดอรุณ

รสชาติความเร่งรีบที่ไม่มีใครหยุดยั้งได้ของเกาหลีใต้

ผู้คนเปลี่ยนจากการปลูกข้าวมาสู่การดาวน์โหลดทอร์เรนต์ในเวลาเพียงไม่กี่ทศวรรษได้อย่างไร ในตอนเย็นเมื่อเร็วๆ นี้ที่ร้านอาหาร Ttobagi Driver’s ในเขต Gwanak ของกรุงโซล ฉันแอบเริ่มจับเวลาเมื่อสั่งอาหาร บริกรสาวเดินจากไปอย่างสบายๆ กลับมาพร้อมกิมจิและเครื่องเคียงอื่นๆ

เพียงสองนาที 20 วินาทีต่อมา หนึ่งนาทีครึ่งหลังจากนั้น ชามดินเผาของ พยอดากวี แฮจังกุก (ซุปกระดูกสันหลังหมู ‘อาการเมาค้าง’)

ก็ถูกวางลงบนโต๊ะ และนึ่งอย่างเดือดดาล เป็นเรื่องที่น่าทึ่งมากที่บริการดังกล่าวมีอยู่ในประเทศที่ไม่มีการให้ทิป สิ่งที่น่าทึ่งกว่านั้นคือ Ttobagi ซึ่งเป็นจุดที่ไม่โอ้อวดที่คนขับแท็กซี่แวะเวียนมานั้นไม่ได้เร็วกว่าสถานที่ถัดไป ความรวดเร็วประจำกิจวัตรดำเนินไปในสังคมเกาหลีใต้

และแพร่หลายโดยเฉพาะในเมืองหลวง มีแม้กระทั่งคำที่ใช้เรียกสิ่งนี้: วัฒนธรรมปปัลลี ปัลลี แปลว่า เร็ว หรือ รีบ ปัลลี ออกเสียงด้วยพยัญชนะตัวแรกที่เน้นเสียงราวกับว่าหักเสียงร้องเหมือนหนังยาง

แนวโน้มของ ppalli-ppalli สามารถเห็นได้จากความเร็วอินเทอร์เน็ตชั้นนำของโลกของเกาหลีใต้ ชั้นเรียนภาษาที่เข้มข้นซึ่งมีแนวโน้มว่าจะได้ผลในทันที และกิจกรรมการออกเดทที่รวดเร็วยอดนิยม และเช่นเดียวกับการใส่ใจเรื่องเวลาก็คือห้องจัดงานแต่งงานที่หรูหราซึ่งจัดพิธีต่อเนื่องยาวนานชั่วโมงตลอดสุดสัปดาห์ Ppalli-ppalli ยังเป็นคำขวัญของนักขี่มอเตอร์ไซค์ส่งอาหารหลายพันคนที่ฝ่าฝืนกฎจราจร

และดูเหมือนว่าจะส่งคำสั่งซื้อหลังเร่งรีบด้วย ในการแข่งขัน McDonald’s ซึ่งเป็นผู้นำระดับโลกในด้านอาหารจานด่วน ได้เริ่มประกอบกลุ่มสกู๊ตเตอร์จัดส่งของตนเองในเกาหลีใต้ในปี 2550 แต่ไม่นานมานี้ เกาหลีชะลอตัวลงมากเนื่องจากสภาพความเป็นชนบท ในปี 1960

ประชากรมากถึง 72% อาศัยอยู่ในชนบท แล้วผู้คนเปลี่ยนจากการปลูกข้าวมาเป็นการดาวน์โหลดทอร์เรนต์ในเวลาเพียงไม่กี่ทศวรรษได้อย่างไร แกรี เร็คเตอร์ พลเมืองเกาหลีที่แปลงสัญชาติ ซึ่งมาถึงโซลในฐานะอาสาสมัครหน่วยสันติภาพในปี 1967 เล่าว่า “ฉันจำได้ว่าเคยแปลกใจ

เพราะก่อนที่ฉันจะมาที่นี่ ฉันมีความคิดแบบเหมารวมว่าพวกเขาจะหมดสติ นั่งสมาธิ และ ใช้ชีวิตอย่างช้าๆ แต่ฉันพบว่าผู้คนมักจะเร่งรีบมากกว่าที่คนอเมริกันทำ ผู้สูงอายุเดินช้ากว่า แต่คนที่อายุเท่าฉันและฉันอายุ 24 ปี ยุ่งมากกับการพยายามปรับปรุงวิถีชีวิตของพวกเขา” อธิการบดีมาในช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรง ในช่วงต้นทศวรรษที่ 60

เกาหลีใต้ได้เริ่มแผนเศรษฐกิจระยะ 5 ปีหลายชุดที่เสนอโดยประธานาธิบดีปาร์ค จุง-ฮี ในขณะนั้น แคมเปญในรูปแบบทหารเหล่านี้นำมาซึ่งปาฏิหาริย์บนแม่น้ำฮัน (การเปลี่ยนแปลงจากประเทศที่ถูกทำลายด้วยสงครามไปสู่มหาอำนาจทางเศรษฐกิจ) และก่อตั้งบริษัท Korea Inc ซึ่งนำเสนอโดยบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Samsung, Hyundai และ LG ด้วย

 

สนับสนุนโดย    UFABET เว็บตรง

ประวัติศาสตร์แห่งเมืองกรุงเก่าศรีอยุธยา    

 

        การปกครองในสมัยกรุงศรีอยุธยา     กรุงศรีอยุธยาปกครองโดยระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ซึ่งมีกษัตริย์สูงสุดปกครองแผ่นดิน ทรงมอบหมายให้เจ้านายและเจ้าเมืองบริหารเมืองเรือ (เมืองลูกหลวง หลานหลวง) และเมืองชายแดน ทำหน้าที่เป็นหูเป็นตาให้เขา การพึ่งพาอาศัยกัน

โดยราชวงศ์เก่าและขึ้นอยู่กับกรุงศรีอยุธยา   พระบาทสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถทรงปฏิรูปการปกครองและลดอำนาจจังหวัดลง 

พระองค์ทรงแบ่งฝ่ายบริหารออกเป็น 2 ฝ่าย คือ ฝ่ายกิจการทหารที่รับผิดชอบโดยสมุหกะลาหอม และฝ่ายพลเรือนที่รับผิดชอบโดยสมุหนายก (นายกรัฐมนตรี) กิจการพลเรือนแบ่งออกเป็น 4 สำนัก เรียกว่า “จตุรัสโดม”  เสาหลักทั้ง 4  เช่น กรมมาเวียงหรือนครบาล

สำหรับเมืองและการปกครองส่วนท้องถิ่น กรมมาวังหรือธรรมาธิกรสำหรับกิจการพระราชวัง กรมคลังหรือโกษาธิบดีเพื่อการค้าและการต่างประเทศ และกรมนาหรือเกษตรกรรม ระบบการบริหารนี้มีใช้มาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา

การปกครองในสมัยกรุงศรีอยุธยา   สังคมกรุงศรีอยุธยาแบ่งออกเป็น 2 ชนชั้น คือ ชนชั้นสูงหรือเจ้านายที่ประกอบด้วยกษัตริย์ซึ่งดำรงตำแหน่งสูงสุดเช่นประมุข ชนชั้นที่ 2 คือ ราชวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัด และขุนนาง ซึ่งอยู่ร่วมกันระหว่างกษัตริย์กับพลเมือง ทำหน้าที่ปกครองชาวนาและทาส  

ชาวนาก็เป็นพลเมืองธรรมดาเช่นเดียวกับคนส่วนใหญ่ในสังคม กฎหมายกำหนดให้ชาวนาต้องเป็นของนาย เป็นระบบการควบคุมกำลังคนของราชการ ชาวนาถูกคัดเลือกเข้ารับราชการในหลวงประมาณ 6 เดือน ส่วนชาวนาที่ไม่ต้องการจ้างก็ต้องจ่ายเงินหรือสิ่งตอบแทนที่เรียกว่า “สวย” ชาวนาจะไม่ได้รับเงินเดือน

แต่จะได้รับความคุ้มครองจากนายที่ตนสังกัดอยู่   ทาสเป็นงานของนายมาตลอดชีวิต เกิดจากสงครามและเศรษฐกิจ ทายาทของทาสจะได้รับการเลี้ยงดูจากนายไปตลอดชีวิต

การค้าและเศรษฐกิจ   อาชีพหลักของชาวกรุงศรีอยุธยา  จะประกอบอาชีพทางด้านเกษตรกรรมเป็นหลัก  ข้าวเป็นผลิตภัณฑ์สำคัญที่สามารถผลิตได้เพียงพอสำหรับพลเมืองของประเทศและเป็นสินค้าสำคัญที่พระนครศรีอยุธยาส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ  

เนื่องจากกรุงศรีอยุธยาเป็นศูนย์กลางการค้าที่สำคัญของโลก  ทางเข้ายูฟ่าสล็อต     จึงได้รับรายได้จากทั้งการส่งความโกลาหลมาค้าขายกับต่างชาติและการเป็นคนกลาง ราชสำนักได้จัดตั้งโกดังเพื่อผูกขาดสินค้าสำคัญบางรายการซึ่งพ่อค้าชาวต่างประเทศจะต้องซื้อและขายกับราชสำนักเท่านั้น

  การค้าระหว่างประเทศอยู่ภายใต้กรมคลัง (การเงิน) ซึ่งดูแลโดยอัคยา ศรีธรรมราช ในระยะแรกแบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย คือ กรมท่าขวา สังกัดเจ้าเมืองอินเดีย หรือ จุฬาราชามนตรี ที่ดูแลการค้าขายกับโลกตะวันตก และ กรมท่าสาย สังกัดเจ้าเมืองของจีน ชื่อ พระยาโชติกราชเศรษฐี ซึ่งดูแลการค้าขายกับโลกตะวันออก 

ต่อมาในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลายเมื่อชาวยุโรปเข้ามาค้าขายมากขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้มีการจัดตั้งแผนกขึ้นอีกแผนกหนึ่งคือ กรมท่ากลาง สังกัดเจ้าเมืองต่างด้าว   กษัตริย์และเจ้าเมืองมีความเกรี้ยวกราดในการค้าขายกับต่างชาติ ชาวจีนส่วนใหญ่ทำงานเป็นนายเรือและลูกเรือ สินค้าส่งออกของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ได้แก่ สินค้าเกษตร ศิลาดล และสินค้าจากป่าไม้ เช่น งาช้าง หนัง ไม้ เครื่องเทศ แร่ และอื่นๆอีกมากมาย    รายได้หลักของราชสำนักส่วนหนึ่งมาจากบรรณาการ สวย ภาษี โดยเฉพาะภาษีการค้าระหว่างประเทศ การค้าขายภายในย่านธุรกิจตลอดจนตลาดขนาดเล็กและขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ทั้งในและนอกเมืองทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางและจุดเปลี่ยนของสินค้า

ตลาดในอยุธยามี 2 ประเภท คือ ตลาดน้ำขนาดใหญ่ประมาณ 4 แห่ง และตลาดประมาณ 72 แห่ง ได้แก่ ชานเมือง 32 แห่ง และในตัวเมือง 40 แห่ง ย่านธุรกิจและตลาดเหล่านี้ประกอบด้วยตลาดสดทั้งกลางวันและกลางคืน และตลาดที่จำหน่ายของใช้ประจำวัน (ของชำ) และสินค้าประจำตัวของแต่ละไตรมาสในทุกๆปี