ประวัติความเป็นมาและจุดเริ่มต้นเพลงแนว hip hop

เริ่มต้นของเพลงแนว Hip Hop เกิดขึ้นในช่วงปลายของทศวรรษ 1970 ที่เมืองนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา โดยมีวงดนตรี “The Sugarhill Gang” เป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกแนวดนตรีและวงดนตรีที่สร้างเสียงและสไตล์ของเพลง Hip Hop ซึ่งเริ่มต้นด้วยการใช้สแครตช์และคำพูดที่เรียงต่อกันอย่างแรงรับได้ (Rap) บนเสียงดนตรี Funk และ R&B

ซึ่งมาจากแรงบันดาลใจของวัฒนธรรมที่เป็นหลักสำคัญในชุมชนชาวแอฟริกัน-อเมริกันในย่านบรองก์ลิน และซาวท์บรอง์ก์ลินของนิวยอร์ก

 ผู้สร้างแนวดนตรีและรูปแบบการแสดงเพลงแนว Hip Hop ได้แก่ DJ Kool Herc, Grandmaster Flash, Afrika Bambaataa, และอื่น ๆ ซึ่งได้เริ่มต้นด้วยการใช้ชิ้นส่วนของดนตรี Funk และ R&B ในการสร้างฐานแนวดนตรี รวมถึงการนำเสนอศิลปินที่โดดเด่นในการร้องเพลง (MCs)

ในรูปแบบของการแสดงโชว์ความคิดเป็นแบบอิสระที่เรียกว่าการ “Rapping” หรือ “Emceeing” ที่แนวดนตรี Hip Hop เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในวงการเพลงทั่วโลกและกลายเป็นวัฒนธรรมที่มีอิทธิพลอย่างใหญ่ในสังคมในยุคปัจจุบัน

 

สำหรับเพลงแนว Hip Hop ในประเทศไทยเริ่มก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1980 โดยมีบทบาทสำคัญในการเผยแพร่และส่งเสริมวัฒนธรรม Hip Hop ในสังคมไทย

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา การเป็นเพลงที่สะท้อนสภาพแวดล้อมสังคมและชีวิตประจำวันของคนในชั้นขนาดทำให้เพลงแนว Hip Hop มีความเชื่อมโยงกับเรื่องราวที่สื่อสารถึงประสบการณ์ที่จริงจังและสัมผัสได้ของชุมชนและบุคคลในสังคมไทย

ในช่วงต้นของศตวรรษที่ 21 เพลง Hip Hop ในประเทศไทยเริ่มมีการเพิ่มมากขึ้นทั้งในเรื่องของจำนวนศิลปินที่สร้างเพลงแนวนี้และผู้ฟังที่สนใจ เพลง Hip Hop ไทยมักมีเนื้อหาที่หลากหลายรูปแบบ เช่นการเล่าเรื่องชีวิตของตนเองหรือของชุมชน การเสนอเหตุการณ์ในสังคม หรือการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาที่มีอยู่ในสังคม

 

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ได้มีศิลปิน Hip Hop ที่ประสบความสำเร็จอย่าง ดีเจ ทุนนิธิ นำโชค ซึ่งเป็นเพียงตัวอย่างเพียงเล็กน้อย และยังมีการเรียนรู้และการเผยแพร่เพื่อเสริมสร้างอินทรีย์เพื่อการพัฒนาในวงการ Hip Hop ของประเทศไทยต่อไป

ความนิยมของเพลงแนว Hip Hop ในประเทศไทยมีการเพิ่มมากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในวงการเพลงที่เรียกว่า “Underground Hip Hop” ที่มักจะมีการสร้างเนื้อหาที่ส่วนใหญ่มาจากประสบการณ์และความรู้สึกของศิลปินเอง นับเป็นการนำเสนอเรื่องราวที่ส่วนใหญ่ไม่ได้รับการคัดกรองหรือแก้ไขโดยบริษัทผลิตเพลง ทำให้เนื้อหามักจะมีความเข้มข้นและเป็นจริงจังมากขึ้น

 

นอกจากนี้  ชุดตรวจ hiv     ยังมีการเพิ่มความนิยมของเพลง Hip Hop ในวงการ Mainstream หรือวงการเพลงที่ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทผลิตเพลงใหญ่ ๆ ในประเทศ ซึ่งบางเพลง Hip Hop ได้รับความนิยมและได้รับการเปิดตัวในสื่อมวลชนอย่างกว้างขวาง

นอกจากนี้ เทรนด์ทางสังคมและการใช้เทคโนโลยีสื่อสารใหม่ ๆ เช่น โซเชียลมีเดียและแพลตฟอร์มการสตรีมมิ่งก็ได้เสริมสร้างความนิยมของเพลง Hip Hop ในประเทศไทยอีกด้วย ซึ่งผู้ฟังสามารถเข้าถึงเพลงได้ง่ายขึ้นและมีโอกาสที่จะติดตามและสนับสนุนศิลปิน Hip Hop ได้มากยิ่งขึ้นในยุคปัจจุบัน

Amazon ขอยกเลิกสัญญาเช่ากับธรรมศาสตร์

ก่อนหน้านี้ทางผู้บริหารของยิ้มสู้คาเฟ่  ซึ่งเป็นร้านกาแฟที่เปิดอยู่ในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์โดยร้านกาแฟนี้มีจุดเด่นตรงที่พนักงานที่ให้บริการภายในร้านนั้นจะเป็นพนักงานผู้พิการทั้งหมดโดยร้านยิ้มสู้คาเฟ่นี้เป็นร้านที่เปิดขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือผู้พิการให้มีงานทำซึ่ง มีผู้พิการหลายคนที่ได้รับโอกาสได้ทำงานและมีเงินเดือนหาเงินใช้เองโดยที่ไม่ต้องเป็นภาระให้กับสังคมหรือคนในครอบครัวของพวกเขา

       แต่อย่างไรก็ตามแต่ทางด้านผู้บริหารของยิ้มสู้คาเฟ่ได้ออกมาโพสต์ข้อความลงใน Facebook บอกถึงสถานการณ์ของร้านยิ้มสู้คาเฟ่ว่าตอนนี้ได้หมดสัญญาเช่ากับทางธรรมศาสตร์เป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยทางด้านมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์สาขาท่าพระจันทร์นั้นไม่ได้ต่อสัญญากับทางยิ้มสู้คาเฟ่แต่ให้ร้านกาแฟเจ้าอื่นมาทำสัญญาแทนดังนั้นลูกค้าของทางยิ้มสู้คาเฟ่จะสามารถกินกาแฟของยิ้มสู้คาเฟ่ได้จนถึงแค่วันที่ 10 เดือนพฤศจิกายนปีพศ2563 นี้เท่านั้น

      หลังจากที่ข้อความใน Facebook นี้มีการเผยแพร่ออกไปก็ทำให้ผู้คนมากมายต่างวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยหลายคนมองว่าคาเฟ่แห่งนี้เปรียบเสมือนผู้ช่วยเหลือผู้พิการที่สามารถที่จะให้มีชีวิตอยู่ได้โดยที่พวกเขานั้นมีงานทำไม่ต้องเป็นภาระของคนในครอบครัวหรือคนในสังคมแต่กลับต้องมาถูกปิดตัวลงโดยมีร้านกาแฟอื่นเข้ามาทำสัญญาในการขายกาแฟแทนร้านเดิมและถึงแม้ว่าทางด้านมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เองจะออกมาพูดถึงเรื่องนี้ว่าได้มีการพูดคุยกับทางเจ้าของร้านกาแฟร้านใหม่แล้วว่าจะขอให้เจ้าของร้านกาแฟรับพนักงานที่ทำงานอยู่ที่ยิ้มสู้คาเฟ่ให้ทำงานต่อที่ร้านกาแฟใหม่แต่หลายคนก็ไม่มีความมั่นใจว่าร้านกาแฟใหม่นั้นจะรับพนักงานที่พิการแบบนี้ทำงานหรือไม่

      สุดท้ายแล้วทางด้านผู้บริหารของ Amazon ก็ได้ออกหนังสือส่งถึงสื่อต่างๆระบุว่าร้านกาแฟที่มาทำสัญญาต่อจาก  ร้านยิ้มสู้คาเฟ่ในก็คือร้านอเมซอนนั่นเองและเมื่อทางร้านอเมซอนได้รู้ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นว่าร้านกาแฟดังกล่าวนั้นเปิดขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือคนพิการให้ได้มีงานทำทางด้านอเมซอนเองก็เล็งเห็นถึงความสำคัญในจุดนี้ด้วยเช่นเดียวกันดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจที่จะไม่ทำสัญญาเช่าพื้นที่ดังกล่าวกับทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์แล้วจึงปล่อยให้ทางด้านผู้บริหารของยิ้มสู้คาเฟ่นั้นได้มีการไปตกลงทำสัญญาต่อสัญญากับทางผู้บริหารของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์เอง

        เพราะทางด้านผู้บริหารของ Amazon ก็เล็งเห็นถึงความสำคัญและอยากจะช่วยเหลือผู้พิการให้มีงานทำดังนั้นเมื่อยิ้มสู้คาเฟ่เปิดขึ้นมาเพื่อรับพนักงานที่เป็นผู้พิการโดยเฉพาะทางด้านอเมซอนเองก็จะเคารพสิทธิ์ตรงนี้และไม่เข้าไปเปิดร้านแข่งกับยิ้มสู้คาเฟ่อย่างแน่นอน

 

สนับสนุนโดย   ufabet เว็บแม่