บาบิโลน Loy Krathong ที่กรุงบาบิโลนในประเทศอิรัก

เทศกาล Loy Krathong เป็นงานประเพณีที่มีการแสดงทางวัฒนธรรมอย่างหนึ่งในประเทศไทยและหลายประเทศในภูมิภาคเอเชีย โดยทั่วไปจะจัดขึ้นในเดือนพฤษจิกายนของทุกปี ซึ่งเป็นช่วงฤดูหลังฝนตกหนัก ทำให้รายน้ำในแม่น้ำและทะเลสาบสามารถลดลงได้ และน้ำก็นิ่งเงียบ สร้างสภาพที่เหมาะสมในการจัดงาน Loy Krathong

Loy Krathong นั้นมีลักษณะหลักคือการทำกระทงลอยน้ำที่ทำจากใบไม้หรือของมีความทนทานต่อน้ำ

ลักษณะทั่วไปของกระทงคือมีรูปทรงกลมหรือทรงกลมแบบสี่เหลี่ยม บาบิโลน (Babolon) ในประเทศอิรักก็มีการจัดงาน Loy Krathong เป็นเทศกาลที่ร่วมเป็นที่นิยมในชุมชนท้องถิ่น โดยผู้คนจะมารวมตัวกันที่แม่น้ำหรือทะเลสาบ นำกระทงลอยน้ำมาวางลงน้ำเพื่อส่งต่อความรู้สึกขอบคุณและตั้งใจล้างโชคชะตา มีการจัดกิจกรรมเพลิดเพลินและแสดงศิลปะต่าง ๆ ในงานนี้ด้วย

 การเปิดเทศกาล Loy Krathong มักจะมีการแสดงสวนลอยทางน้ำ, การแสดงมวยไทย, การแสดงเทพนิยาย, การแสดงศิลปะการต่อสู้, การจัดแสดงดนตรี และกิจกรรมอื่น ๆ ที่เน้นความสนุกสนานและสร้างความเป็นพันธุ์มหาชนในช่วงเทศกาลนี้

 ความน่าสนใจเกี่ยวกับ บาบิโลน Loy Krathong

ทศกาล Loy Krathong ในบาบิโลน (Babolon) ประเทศอิรักนั้นมีความน่าสนใจมากมายที่ทำให้นักท่องเที่ยวและชาวบริวารได้สัมผัสประสบการณ์ทางวัฒนธรรมที่พิเศษ นอกจากการที่จะได้รับประสบการณ์ในการลอยกระทงน้ำในแม่น้ำหรือทะเลสาบ ยังมีลักษณะเฉพาะของเทศกาล Loy Krathong ในบาบิโลนที่ควรทราบ

1.สวนลอยแห่งบาบิโลน: บาบิโลนมีสวนลอยที่น่าสนใจที่จัดขึ้นในระหว่างงาน Loy Krathong โดยทั่วไปจะมีการประกวดลอยกระทง, การแสดงศิลปะ, การแสดงมวยไทย, และกิจกรรมสนุกสนานอื่น ๆ ที่เน้นความบันเทิงและชุมชน

2.การบำเพ็ญกายทางวัฒนธรรม: เทศกาล Loy Krathong เป็นโอกาสที่ชาวบริวารและนักท่องเที่ยวจะได้พบกับประสบการณ์ทางวัฒนธรรมท้องถิ่น ได้รับโอกาสทดลองอาหารท้องถิ่น, ชมการแสดงศิลปะและวัฒนธรรมท้องถิ่น

3.การบูรณาการของวัฒนธรรม: เทศกาล Loy Krathong ในบาบิโลนนี้สะท้อนถึงการบูรณาการของวัฒนธรรมที่หลากหลาย โดยมีการแสดงสีสันและทัศนียภาพทางวัฒนธรรมที่มีต้นกำเนิดจากทั้งทางอิสลามและทางพุทธ

4.ประสบการณ์น้ำในบาบิโลน: บาบิโลนมีแหล่งน้ำที่สวยงามและเป็นที่ประทับใจ ทำให้การลอยกระทงในที่นี้มีบรรยากาศที่เฉพาะเจาะจง

5.การเลือกใช้วัสดุท้องถิ่น: การทำกระทงลอยน้ำในบาบิโลนนั้นมักใช้วัสดุท้องถิ่น เช่น ใบไม้, ไม้, หรือวัสดุที่มีอยู่ในธรรมชาติ เนื่องจากสภาพธรรมชาติของท้องถิ่นนี้

การเข้าร่วมในเทศกาล Loy Krathong ในบาบิโลนนั้นจะเสริมสร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวที่หลากหลายและที่ไม่เหมือนใครสำหรับนักท่องเที่ยวทุกคน

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    ทางเข้า ufabet

เราสามารถสืบสานและต่อยอดวัฒนธรรมไทยได้อย่างไร 

ศิลปะและวัฒนธรรมไทยนั้นถือว่าเป็นสิ่งที่ดีงามและได้รับความสนใจจากประชาชนทั่วโลกดังนั้นเราจึงจำเป็นที่จะต้องมีการสืบสานวัฒนธรรมที่ดี

นี้ให้สืบต่อเนื่องและคงอยู่ต่อไปในอนาคตอย่างไรก็ตามในบทความนี้เราจะมาพูดถึงวิธีการที่เราจะสามารถสืบสานวัฒนธรรมไทยและยังสามารถต่อยอดวัฒนธรรมไทยให้อยู่ต่อไปในอนาคตจนกว่าจะช่วยลูกช่วยหลานได้ ซึ่งปัจจุบันมีทั้งเป็นแบบบุคคลและทั้งแบบองค์กรที่ช่วยการสืบสานวัฒนธรรมและมีการต่อยอดเกี่ยวกับเรื่องของวัฒนธรรมไทย 

เนื่องจาก ประเทศไทยมีการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์และสถาบันทางวัฒนธรรมที่มีจุดประสงค์เพื่อการอนุรักษ์และส่งเสริมมรดกทางวัฒนธรรมพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติในกรุงเทพฯและพิพิธภัณฑ์ระดับภูมิภาคต่างๆจัดแสดงวัตถุโบราณสิ่งประดิษฐ์งานศิลปะและนิทรรศการที่ช่วยให้ความรู้แก่ทั้งคนในท้องถิ่นและผู้มาเยือนเกี่ยวกับประวัติศาสตร์วัฒนธรรมของประเทศไทยตั้งแต่ระดับท้องถิ่นจนถึงระดับประเทศ

ต่อยอดวัฒนธรรมไทย หรือแม้กระทั่งการทวงคืนศิลปะและสมบัติของชาติคืนจากต่างประเทศศิลปะและโบราณวัตถุมากมายหลายชิ้นที่ถูกลักลอบขโมยและขายให้กับชาวต่างชาติ

หน่วยงานรัฐและองค์กรต่างๆได้ร่วมมือกันรวบรวมหลักฐานเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของและยืนยันแหล่งกำเนิดเพื่อทวงคืนกลับมายังประเทศไทยประเทศไทยเองเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก

จากเทศกาลทางวัฒนธรรมที่มีสีสันและมีชีวิตชีวาซึ่งเป็นประเพณีเฉลิมฉลองต่างๆเช่นเทศกาลสงกรานต์หรือปีใหม่ไทยและลอยกระทงหรือแม้กระทั่งเทศกาลผีตาโขนเทศกาลที่ไม่เหมือนใครในจังหวัดเลย

การรักษาประเพณีความเชื่อและพิธีกรรมแบบดั้งเดิมและบรรยากาศที่สนุกสนานสะท้อนให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ทางวัฒนธรรมของภูมิภาคประเพณีถวายเทียนพรรษาที่สืบทอดกันเรื่อยมาและกลายเป็นที่มาของประเพณีแห่เทียนพรรษาอุบลราชธานีซึ่งเป็นงานประเพณียิ่งใหญ่ของจังหวัดสืบทอดติดต่อกันมากกว่า 100 ปี

เทศกาลเหล่านี้เป็นเทศกาลที่ดึงดูดทั้งคนในท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวต่างชาติทั่วโลกเทศกาลเหล่านี้ถูกจัดขึ้นโดยความร่วมมือของภาครัฐและเอกชนและคนที่มาร่วมงานเหล่านี้เองมีส่วนร่วมในการส่งเสริมและอนุรักษ์การปฏิบัติทางวัฒนธรรมอีกทั้งยังเป็น Soft Power ให้กับประเทศไทยและทำให้ประเทศเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกด้วยเทศกาลเหล่านี้

สำหรับประเพณีและวัฒนธรรมของไทยนั้นมีเยอะแยะมากมายเต็มไปหมดซึ่งในแต่ละจังหวัดของประเทศไทยก็จะมีประเพณีและวัฒนธรรมที่แตกต่างกันออกไปดังนั้นเราจึงควรศึกษาวัฒนธรรมและประเพณีของแต่ละจังหวัดเอาไว้ เพื่อให้ประเพณีและวัฒนธรรมเหล่านี้ยังคงเป็นอยู่เชื่อลูกเชื่อหลานและกลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก

เพราะนอกจากจะเป็นการส่งเสริมประเพณีอันดีงามแล้วประเพณีและวัฒนธรรมต่างๆเหล่านี้ของไทยก็ยังสามารถดึงดูดให้ชาวต่างชาตินั้นเดินทางมาเที่ยวไทยและกลายเป็น Soft Power ให้ประเทศไทยนั้นมีรายได้เข้ามาพัฒนาประเทศได้อีกด้วย

 

สนับสนุนโดย  ทางเข้า ufabet มือ ถือ

ประวัติของวัดศรีบุญเรือง จังหวัดเชียงราย วัดสวย ประติมากรรมงดงามน่าไปไหว้สักครั้งในชีวิต

 

 

 โดยวัดศรีบุญเรือง (Wat Sri Boon Rueang) คือวัดที่ตั้งอยู่ในจังหวัดเชียงราย ประเทศไทย ซึ่งมีประวัติและความสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ ต่อไปนี้คือข้อมูลเกี่ยวกับประวัติของวัดศรีบุญเรือง

1.สถาปัตยกรรม วัดศรีบุญเรืองมีสถาปัตยกรรมที่สวยงามและเป็นที่น่าสนใจ เนื่องจากมีอาคารพระอารามทรงเจดีย์ที่สูงสวยงาม และมีการตกแต่งด้วยงานปั้นประดับที่ศิลปินท้องถิ่นสร้างขึ้นมา นอกจากนี้ยังมีวัดในวัดอีกหลายส่วนที่มีความหลากหลายและมีความประดับประดาด้วยงานศิลปะที่น่าตื่นตาตื่นใจ

2.ประวัติ ประวัติวัดศรีบุญเรืองมีที่มาจากอดีตที่ยาวนาน ตั้งแต่สมัยอยุธยา ทรงมีเจ้าอาวาสที่ยังคงมีบทบาทสำคัญในชุมชน นับว่าเป็นที่บูรณะวัดของชาวบ้าน ทำให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางศาสนาที่มีความสำคัญในพื้นที่

3.เทศกาลและพิธีกรรม วัดศรีบุญเรืองมีการจัดกิจกรรมเทศกาลและพิธีกรรมต่างๆ ในระหว่างปี ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวและผู้ศรัทธามาเยี่ยมชมและลงทัณฑ์ทำบุญ

4.ที่ตั้ง วัดศรีบุญเรืองตั้งอยู่ในเขตเทศบาลนครเชียงราย มีที่อยู่ที่ถนนวัวลาย ตำบลรอบเวียง อำเภอเมืองเชียงราย

 เพื่อความแม่นยำและการเข้าใจเพิ่มเติม เนื่องจากข้อมูลมีการเปลี่ยนแปลงได้ ควรตรวจสอบข้อมูลล่าสุดจากแหล่งที่มีความเชื่อถือได้ หรือติดต่อที่ท้องถิ่นในจังหวัดเชียงรายเพื่อข้อมูลที่สะท้อนความเป็นจริงในปัจจุบัน 

วัดศรีบุญเรืองมีความดังมีหลายปัจจัยที่เป็นสาเหตุ ดังนี้

1.สถาปัตยกรรมที่งดงาม วัดศรีบุญเรืองมีสถาปัตยกรรมที่งดงามและน่าสนใจที่สร้างความประทับใจให้กับผู้ที่มาเยี่ยมชม การตกแต่งด้วยงานปั้นประดับและศิลปะชนิดต่างๆ ทำให้วัดนี้เป็นที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่น

2.ความสำคัญทางศาสนา เป็นสถานที่ทางศาสนาที่มีความสำคัญในชุมชน ชาวบ้านมีความนับถือและมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางศาสนาที่จัดขึ้นในวัด ซึ่งทำให้มีการรักษาและซ่อมแซมวัดอยู่เสมอ

3.กิจกรรมและเทศกาล วัดศรีบุญเรืองมีการจัดกิจกรรมและเทศกาลต่างๆ ที่น่าสนใจ เช่น เทศกาลประจำปี พิธีกรรมทางศาสนา และกิจกรรมท่องเที่ยวทางศาสนาที่ดึงดูดผู้คนมาเข้าชม

4.ทำเลที่ตั้ง การตั้งอยู่ในทำเลที่สะดวกสบายและเป็นจุดสังเกตของนักท่องเที่ยวทำให้มีการเยี่ยมชมมากขึ้น

5.สถานที่ประสาน  วัดศรีบุญเรืองอาจเป็นสถานที่ที่ผู้คนมารวมตัวกันในกิจกรรมทางศาสนาหรือพิธีกรรมต่างๆ ทำให้เกิดความเชื่อมโยงทางสังคม

6.การส่งเสริมทางท่องเที่ยว การส่งเสริมทางท่องเที่ยวทางศาสนาหรือทางวัฒนธรรมสามารถทำให้วัดดังมากขึ้น

ทั้งนี้ความดังของวัดศรีบุญเรืองเป็นผลมาจากการรวมกันของปัจจัยหลายประการที่ทำให้วัดนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจและมีความสำคัญในชุมชนและท่องเที่ยว

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย  ufabet เว็บหลัก

ประวัติความเป็นมาของจังหวัดลำพูนในยุคสมัยหริภุญไชยหรือเริ่มต้นปฐมบทอาณาจักรแห่งล้านนา 

เริ่มต้นปฐมบทอาณาจักรแห่งล้านนา ถ้าหากใครได้มีการศึกษาประวัติศาสตร์ความเป็นมาของอาณาจักรล้านนาจะรู้ว่าแรกเริ่มเดิมทีของอาณาจักรล้านนานั้นก็คือพื้นที่ส่วนใหญ่

หรืออาจจะกล่าวได้ว่าพื้นที่ทั้งหมดของจังหวัดในภาคเหนือนั้นอยู่ในเขตของอาณาจักรล้านนาซึ่งอาณาจักรเริ่มเดินทีของอาณาจักรล้านนาหรือถือได้ว่ามีฐานะเป็นราชินีของอาณาจักรล้านนานั่นก็คือจังหวัดลำพูนหรือในส่วนร่วมสมัยโบราณนั้นมีชื่อเรียกว่าเป็นยุคของหริภุญไชยนครนั่นเอง 

สำหรับในยุคสมัยนี้ตามประวัติศาสตร์ของความเป็นมาเรียกได้ว่าเป็นยุคเริ่มแรกๆของการตั้งอาณาจักรขึ้นมาและเป็นยุคที่ถือได้ว่ามีอารยธรรมที่เจริญรุ่งเรืองสูงสุดทั้งในเรื่องของการปกครองด้านการเมืองด้านเศรษฐกิจรวมถึงศาสนา

สำหรับในยุคของเฮริพลชัยแห่งนี้นั้นนับได้ว่าเป็นยุคแห่งการประดิษฐ์ตัวอักษรมอญโบราณซึ่งมีมากถึง 10 หลักด้วยกันโดยมีการประดิษฐ์ตัวอักษรในช่วงพุทธศตวรรษที่ 15-17 ซึ่งตัวอักษรโบราณต่างๆเหล่านี้มีอิทธิพลเป็นอย่างมากมาจนถึงสมัยปัจจุบันนั่นเอง

อย่างไรก็ตามในช่วงยุคสมัยของหริภุญไชยนครนั้นนับได้ว่าเป็นยุคที่สร้างชื่อเสียงอีกยุคหนึ่งเลยก็ว่าได้เพราะกลุ่มชนในชาติตะวันออกเฉียงใต้ไม่ว่าจะเป็นจำปาศรีวิชัยหรือ ผู้การนครวัดหรือแม้แต่ประเทศจีนหรือแม้แต่เมืองละโว้ต่างก็มีการเร่ารือพูดถึงความเจริญรุ่งเรืองของเมืองหิริภุญชัยนครนั่นเอง 

อย่างไรก็ตามในยุคสมัยของหริภุญไชยนครนั้นก็ได้มีการทำศึกสงครามกับเมืองละโว้ในที่สุดซึ่งในยุคดังกล่าวนั้นเป็นยุคที่รัฐทางตอนใต้นั้นต้องการที่จะขยายอาณาจักรของตัวเองอยากจะเผยแผ่สัญญานุภาพของตนเองไปยังหัวเมืองต่างๆจึงทำให้เกิดสงครามระหว่างนครศรีธรรมราชและเมืองละโว้

รวมถึงเมืองหิริพูนชัยดังนั้นจะเห็นได้ว่าหลักฐานทางประวัติศาสตร์จะมีการระบุเอาอะไรยากเมืองฟิลิปปินส์นั้นปกครองอย่างสงบร่มเย็นมานานกว่า 3 ทศวรรษก่อนที่จะมีการทำสงครามกันเกิดขึ้น

อย่างไรก็ตามในระหว่างที่เกิดสงครามกันนั้นนอกจากประชาชนจะต้องได้รับผลกระทบกับภาวะสงครามแล้วก็ยังเกิดโรคห่าครั้งใหญ่ทำให้ผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมากซึ่งจากเหตุการณ์ล้มตายของผู้คนจำนวนมากจากโรคระบาดนั้นเองที่ทำให้เกิดประเพณีต่างๆมากมายต่อมายกตัวอย่างเช่นประเพณีลอยขมวดในช่วงฤดูน้ำหลากหรือแม้แต่ประเพณีลอยกระทงเป็นต้น 

เนื่องจากสมัยของยุคหริภุญชัยนครนั้นเป็นยุคสมัยของคนขอมและคนมอญอาศัยอยู่ซะเป็นส่วนใหญ่ดังนั้นจะเห็นได้ว่ากำหนดธรรมเนียมประเพณีของไทยบางอย่างนั้นจึงเป็นกำหนดประเพณีธรรมเนียมที่คล้ายของชาวมอญและชาวขอมนั่นเอง 

 

สนับสนุนข้อมูลโดย  ทางเข้า gclub มือถือ

ประวัติจังหวัดลำพูนในยุคสมัยต้นรัตนโกสินทร์ 

     สำหรับใครที่เคยศึกษาประวัติศาสตร์ของประเทศไทยจะรู้ว่าประเทศไทยนั้นมีหลายยุคหลายสมัยมาแล้วซึ่งมีมาตั้งแต่ยุคสุโขทัยรวมถึงยุคอยุธยาและยุครัตนโกสินทร์

อย่างไรก็ตามในบทความนี้เราจะมาพูดถึงประวัติความเป็นมาของจังหวัดลำพูนซึ่งเป็นช่วงในยุคของรัตนโกสินทร์ตอนต้นซึ่งหลายคนนั้นอาจจะเคยศึกษาข้อมูลกันบ้างแล้วแต่ยังคงมีอีกหลายคนที่ยังคงไม่รู้จักประวัติของจังหวัดลำพูนในสมัยยุครัตนโกสินทร์ตอนต้นนั้นมีความเป็นมาอย่างไรนั่นเอง

อย่างไรก็ตามในสมัยยุคและโกสินทร์ตอนต้นของจังหวัดลำพูนนั้นเกิดช่วงประมาณทศวรรษที่ 24-25 ซึ่งในช่วงดังกล่าวนั้นเป็นช่วงที่การปกครองของจังหวัดลำพูนนั้นยังคงเป็นการปกครองในอาณาจักรล้านนาหรือที่เราเรียนกันว่าดินแดนล้านนานั่นเอง

ยุคสมัยต้นรัตนโกสินทร์  ซึ่งในยุคดังกล่าวนั้นถือได้ว่าเป็นยุคที่มีความเจริญรุ่งเรืองสูงสุดเกี่ยวกับทางด้านพระพุทธศาสนาอะไรก็ว่าได้

แต่ในขณะเดียวกันในความเจริญรุ่งเรืองก็มีการทำศึกสงครามเนื่องจากว่าในยุคดังกล่าวนั้นเป็นยุคที่พม่าพยายามที่จะเข้ามาครอบครองอาณาจักรล้านนาของไทยนั่นเองดังนั้นจึงกล่าวได้ว่าในช่วงพุทธศตวรรษที่ 24-25 นั้นเป็นช่วงที่ประชาชนนั้นต้องเดือดร้อนเป็นอย่างมาก

เนื่องจากว่าประชาชนต้องพากันหลบหนีสงครามที่พม่าพยายามเข้ามายึดครองประเทศทำให้ชาวบ้านนั้นต้องทิ้งเมืองทำให้บ้านเมืองในยุคดังกล่าวนั้นถูกปล่อยทิ้งร้างเอาไว้ ซึ่งยุคดังกล่าวนั้นนอกจากเราจะรู้ว่าเป็นยุคของรัตนโกสินทร์ตอนต้นแล้วยังอาจกล่าวได้ว่าเป็นยุคเก็บผักใส่ช้าเก็บค่าใส่เมืองนั่นเอง 

ในช่วงยุคสมัยของรัตนโกสินทร์ตอนต้นหรืออาจกล่าวได้ว่าเป็นยุคเปลี่ยนผ่านจากอาณาจักรล้านนามาเป็นการปกครองของรัตนโกสินทร์นั้นช่วงเวลาดังกล่าวนั้นเจ้าเมืองเชียงใหม่ที่มีการปกครองประชาชนและดูแลราษฎรนั้นก็คือพระยาบุรีรัตน์หรือที่เรียกกันในนามคำฝั้น

  โดยพระยาบุรีรัตน์นั้นได้เข้ามาดูแลประชาชนชาวเมืองเชียงใหม่ให้พากันอพยพมาอยู่ที่เมืองลำพูนแทนและให้ประชาชนนั้นสร้างบ้านเรือนตั้งถิ่นฐานอยู่ใกล้กับแม่น้ำได้แก่ริมแม่น้ำปิงและริมแม่น้ำกวงซึ่งชาวบ้านที่อพยพมาอยู่แถวพื้นที่บริเวณดังกล่าวนั้นส่วนใหญ่เป็นคนชาวยองดังนั้นวัฒนธรรมของชาวจังหวัดลำพูนในยุคปัจจุบันนั้นจึงมีการนำศิลปะและวัฒนธรรมของชาวยองมาใช้มาจนถึงปัจจุบัน

หลังจากที่เข้าสู่ยุคสมัยของรัตนโกสินทร์ตอนต้นซึ่งไทยสามารถทำสงครามขับไล่พม่าออกจากประเทศได้ทำให้ประชาชนอยู่กันอย่างมีความสุขเรียกได้ว่าเป็นยุคที่บ้านเมืองสงบสุขร่มเย็นดังนั้นหลังจากที่ไม่มีศึกสงครามใดๆไม่ว่าจะเป็นเรื่องของงานช่างต่างๆรวมถึงศิลปะและวัฒนธรรมจึงมีการพัฒนาให้มีความเจริญรุ่งเรืองมากยิ่งขึ้นนั่นเอง 

 

สนับสนุนโดย  www.ufabet.com เริ่มเดิมพัน

ประวัติความเป็นมาของจังหวัดลำพูนในยุคประวัติศาสตร์แรกเริ่ม 

       สำหรับในบทความนี้เราจะมาพูดถึงประวัติความเป็นมาของจังหวัดลำพูนโดยจะพูดถึงประวัติความเป็นมาตั้งแต่เริ่มแรกเริ่มเดิมทีของการก่อตั้งจังหวัดลำพูนนั่นเองซึ่งได้มีข้อมูลบันทึกไว้ในพงศาวดารเกี่ยวกับเรื่องของยุคก่อนประวัติศาสตร์ของจังหวัดลำพูน

โดยในสมัยก่อนนั้นจังหวัดลำพูนนั้นไม่ได้เป็นจังหวัดแต่ในสมัยโบราณเรียกว่าเมืองลำพูนหรืออีกชื่อหนึ่งก็คืออาณาจักรหริภุญชัย 

สำหรับประวัติความเป็นมาก่อนยุคประวัติศาสตร์นั้นจะเป็นข้อมูลก่อนที่จะมีการตั้งเป็นอาณาจักรหิริภุญชัยซึ่งในยุคสมัยโบราณนั้นมีการเรียกว่าบ้านวังไฮซึ่งในอดีตนั้นบริเวณตรงพื้นที่ที่เราเรียกกันว่าจังหวัดลำพูนนั้นเกิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อประมาณ 2,000 ปีที่ผ่านมาแล้ว

ซึ่งเกิดหลังพุทธกาลเล็กน้อยโดยพื้นที่ดังกล่าวนั้นอยู่ใกล้กับแม่น้ำกวงและแม่น้ำปิงซึ่งแต่เดิมนั้นเรียก2 แถบแม่น้ำดังกล่าวว่าสมันตรประเทศ 

อย่างไรก็ตามในยุคสมัยโบราณนั้นบริเวณพื้นที่ดังกล่าวยังไม่มีการปกครองในรูปแบบพระมหากษัตริย์หรือในรูปแบบใดๆทั้งสิ้นเป็นการอยู่อาศัยของชาวบ้านธรรมดาทั่วไป

 

ยุคประวัติศาสตร์แรกเริ่ม จนมีนักพรตเดินทางมาจากชมพูทวีปโดยต้องการที่จะมาเผยแพร่ศาสนาพราหมณ์ของตนเองหลังจากนั้นเมื่อเข้ามาอยู่ก็ได้มีการพูดคุยและก่อตั้งชุมชนขึ้นมา

 สำหรับเรื่องราวดังกล่าวนั้นมีหลักฐานอ้างอิงทางประวัติศาสตร์เนื่องจากว่านักโบราณคดีสามารถที่จะค้นพบทั้งในเรื่องของการจารึกผ่านทางพงศาวดารและยังมีโครงกระดูกที่ค้นพบในปีพ.ศ 2530 ซึ่งโครงกระดูกดังกล่าวนั้นมีอายุเก่าแก่ระหว่าง 2,800 ปีถึง 3,000 ปีโดยขุดพบที่บ้านวังไห่ของจังหวัดลำพูนนั่นเอง

นอกจากนี้ ในยุคก่อนประวัติศาสตร์นั้นยังพบว่า ที่นี่ได้มีการเขียนสัญลักษณ์ภาพเขียนสี ซึ่งจะค้นพบตามถ้ำต่างๆนอกจากนี้ยังมีหลักฐานที่สามารถค้นพบได้ว่าในยุคดังกล่าวนั้นเป็นยุคที่มีการขูดขีดผาหินและมีการประทับรอยเอาไว้ซึ่งรูปเขียนส่วนใหญ่นั้นจะเขียนด้วยสีแดงและยังพบว่าในยุคของก่อนปฏิบัติปีศาจนั้นมีการใช้เครื่องมือขวานหินและหอกเป็นอาวุธ

นอกจากนี้ในยุคก่อนประวัติศาสตร์นั้นมีการค้นพบว่าชาวเมืองได้มีการติดต่อกับบุคคลภายนอกในการค้าขายแลกเปลี่ยนสินค้ากันไม่ว่าจะเป็นกลุ่มพ่อค้าทางอินโด-โรมัน หรือแม้แต่กลุ่มพ่อค้าทางซีกโลกตะวันออกโดยมีหลักฐานอ้างอิงจากสร้อยกำไลในหลุมศพรวมถึงมีการค้นพบลูกปัดซึ่งสามารถจะตรวจสอบได้ว่าสิ่งของต่างๆเหล่านี้นั้นเป็นอารยธรรมจากซีกโลกตะวันตกและซีกโลกตะวันออกนั่นเอง

อย่างไรก็ตามในยุคสมัยก่อนประวัติศาสตร์แรกเริ่มนั้นเป็นยุคก่อนที่จะมีการปกครองจากผู้นำในนามของพระมหากษัตริย์แต่ต่อมาก็มีการพัฒนาโดยในยุคต่อมานั้นจะเป็นยุคของหิริปุญชัยซึ่งเป็นยุคโด่งดังในประวัติศาสตร์ของไทยอีกยุคหนึ่งและในยุคนี้ก็จะมีพระมหากษัตริย์เข้ามาปกครองประชาชน 

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    สล็อต เว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์

ประเพณีลากพระและตักบาตรเทโว  ประจำจังหวัดสงขลา 

ประเพณีลากพระและตักบาตรเทโว  ประจำจังหวัดสงขลา 

         สำหรับในบทความนี้เราจะมาแนะนำเกี่ยวกับประเพณีที่จะมีการจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีของจังหวัดสงขลาซึ่งนับได้ว่าเป็นประเพณีที่มีการทำกันมาอย่างยาวนานสืบทอดกันรุ่นต่อรุ่นจากคนเฒ่าคนแก่ส่งต่อมายังถึงลูกหลานและปัจจุบันนั้นก็ยังมีการจัดประเพณีกันอย่างยิ่งใหญ่อลังการอยู่และประเพณีก็ยังสามารถดึงดูดให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางมาเที่ยวที่จังหวัดสงขลาเพื่อมาร่วมงานประเพณีกันอย่างคับคั่งมากมายเลยทีเดียว

     สำหรับประเพณีที่เรากำลังพูดถึงนี้คือประเพณีลากพระและตักบาตรเทโวซึ่งโดยปกติแล้วทางจังหวัดสงขลาจะมีการจัดกิจกรรมประเพณีในช่วงประมาณต้นเดือนตุลาคมซึ่งเป็นช่วงระหว่างวันออกพรรษาโดยจุดที่มีการจัดกิจกรรมประเพณีนี้จะมีตั้งแต่บริเวณสระบัวแหลมสมิหลานอกจากนี้ยังมีการจัดประเพณีนี้แถวบริเวณเชิงบันไดเขาตังกวนและที่หน้าสนามกีฬาติณสูลานนท์ซึ่งถือว่าเป็นสนามกีฬาประจำจังหวัดสงขลาอีกด้วย

          ประเพณีลากพระและตักบาตรเทโวนั้นทางเจ้าหน้าที่ประจำจังหวัดจะมีการจัดกิจกรรม 3 วันด้วยกัน

ซึ่งโดยปกติแล้วในวันแรกนั้นจะมีการจัดทำพิธีสมโภชบริเวณสระบัวแหลมสมิหลาซึ่งตรงจุดนี้ชาวบ้านจะพากันมารวมตัวเพื่อทำบุญเป็นการห่มผ้าองค์เจดีย์หลวงเขาตังกวนซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำจังหวัดสงขลาและเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวจังหวัดสงขลาให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างมากเลยทีเดียว 

        อย่างไรก็ตามวันต่อมาชาวบ้านก็จะมีการเดินขบวนมาที่บริเวณหน้าสถานีวิทยุเสียงจากทหารเรือเพื่อทำพิธีแห่ผ้าและเปลี่ยนผ้าห่มขององค์เจดีย์หลวงเขาตังกวนซึ่งกิจกรรมจะเริ่มมีการทำการตั้งแต่ 08:00 น เป็นต้นไปและหลังจากที่เสร็จประเพณีในวันดังกล่าวแล้วชาวบ้านก็จะพากันท่องเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวภายในจังหวัด

         หลังจากนั้นในวันรุ่งขึ้นชาวบ้านก็จะมารวมตัวกันแถวบริเวณเชิงบันไดเขาตังกวนอีกครั้งหนึ่งซึ่ง  ufabet    จะมารวมตัวกันตั้งแต่ช่วงเวลา 06:30 น เป็นต้นไปเพื่อร่วมพิธีทำบุญตักบาตรเทโวโดยจะมีพระสงฆ์เป็นจำนวนมากมาคอยยืนรับข้าวสารอาหารแห้งแถวบริเวณเชิงบันไดเขาตังกวนและจะมีการเริ่มตักบาตรกันตั้งแต่ช่วงเวลา 8:30 น เป็นต้นไป 

         หลังจากที่ชาวบ้านทำการตักบาตรและมีการเปิดงานประเพณีลากพระเสร็จเรียบร้อยแล้วก็จะมีการชมกันประกวดเรือพระขบวนแห่เรือพระที่นั่งซึ่งการประกวดนี้จะมีการจัดขึ้นที่บริเวณหน้าสนามกีฬาติณสูลานนท์และในวันสุดท้ายนั้นก็จะเป็นพิธีการมอบรางวัลเรือขบวนที่ชนะการประกวด 

สถานที่สำคัญในวัดพระแก้ว 

  สถานที่สำคัญในวัดพระแก้ว  เชื่อว่าหลายคนคงมีโอกาสได้เดินทางไปกราบไหว้ขอพรพระแก้วมรกตที่วัดพระแก้วกันมาบ้างแล้วแต่บางคนอาจจะยังไม่สะดวกหรือไม่มีเวลาที่จะเดินทางไป

ดังนั้นในบทความนี้เราจะมาพูดถึงสถานที่สำคัญ ซึ่งถูกสร้างอยู่ในวัดพระแก้วและเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่หากมีโอกาสก็ควรที่จะไปศึกษาข้อมูลหรือไปเยี่ยมชมดูสักครั้งหนึ่งมาดูกันว่าภายในวัดพระแก้วนั้นมีสถานที่สำคัญที่ไหนบ้าง

        พระอุโบสถ  ที่นี่ว่ากันว่าตามประวัติความเป็นมาและถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1

หรืออาจจะกล่าวได้ว่าถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่เริ่มการสร้างวัดพระแก้วเลยก็ว่าได้โดยวัดแห่งนี้นั้นจะมีการสร้างกำแพงแก้วล้อมรอบซึ่งจะมีการประดับประดาด้วยครุฑยุดนาคหล่อด้วยโลหะปิดทองเป็นสถาปัตยกรรมที่มีความงดงามเป็นอย่างมาก

        นอกจากนี้ยังมีเสารายเทียนหล่อด้วยทองแดงล้อมรอบทั้ง 4 ด้านอีกด้วยอย่างไรก็ตามถ้าหากว่าใครได้มีโอกาสเข้าไปชมความงดงามด้านในพระอุโบสถก็จะเห็นว่าด้านในนั้นก็จะมีการเขียนภาพจิตรกรรมฝาผนังล้อมรอบของผนังของอุโบสถเลยก็ว่าได้และภาพที่มีการถูกเขียนเอาไว้นั้น

ก็จะมีภาพที่เกี่ยวพันกับพระพุทธศาสนาไม่ว่าจะเป็นภาพเทพชุมนุมตามแบบที่สืบเนื่องกันมาจากสมัยอยุธยาหรือภาพเรื่องราวของพุทธประวัตินอกจากนี้ยังมีภาพทศชาติชาดกรวมถึงกระบวนพยุหยาตราราชมาค เป็นต้น 

         อย่างไรก็ตามสิ่งที่สำคัญที่สุดภายในพระอุโบสถแห่งนี้ก็คือพระแก้วมรกตซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมเก่าแก่และเป็นพระพุทธรูปที่มีความงดงามอยู่คู่บ้านคู่เมืองมาอย่างยาวนาน  นอกจากนี้ยังมีพระบรมรูปของพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกและพระพุทธเลิศหล้านภาลัยซึ่งก็คือรัชกาลที่ 1 และรัชกาลที่ 2 นั่นเอง โดยผู้ที่สั่งให้มีการสร้างและนำมาไว้ภายในพระอุโบสถแห่งนี้ก็คือรัชกาลที่ 3 นั่นเอง 

        พระศรีรัตนเจดีย์ สำหรับเจดีย์แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อไว้เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุโดยสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยปีพศ. 2398

  ีดฟิำะ   เนื่องจากว่ามีการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมาจากลังกาจึงถูกนำมาประดิษฐานไว้ที่นี่

       ปราสาทพระเทพบิดร   สำหรับปราสาทแห่งนี้นั้นสร้างเป็นลักษณะอาคารจตุรมุขทรงไทยถูกสร้างขึ้นในช่วงประมาณปีพ.ศ 2398 จะเห็นได้ว่าตัวประสาทนั้นยกยอดเป็นทรงปรางค์ซึ่งภายในตัวปราสาทพระเทพบิดรนั้นก็จะมีพระบรมรูปของสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้าในราชวงศ์จักรีทั้งหมด 5 พระองค์อยู่ภายในปราสาทพระเทพบิดรซึ่งเป็นกษัตริย์ในสมัยรัชกาลที่ 1 ถึงรัชกาลที่ 5 นั่นเอง 

         หอราชกรมานุสรณ์   สำหรับสถานที่แห่งนี้ใช้เป็นสถานที่ในการจัดเก็บพระพุทธรูปประจำรัชกาลของพระมหากษัตริย์โดยมีตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาจนถึงกรุงรัตนโกสินทร์เลยทีเดียว 

รวมประเพณีที่จะมีการจัดขึ้นในช่วงเทศกาลวันออกพรรษาทั่วไทย

           เทศกาลวันออกพรรษาทั่วไทย สำหรับในบทความนี้เราจะมีการรวบรวมประเพณีของแต่ละจังหวัดที่จะมีการจัดขึ้นในช่วงเทศกาลวันออกพรรษาเพื่อให้นักท่องเที่ยวที่สนใจจะไปเที่ยวในช่วงเทศกาลวันออกพรรษาได้มีโอกาสเลือกว่าจะเดินทางไปท่องเที่ยวหรือไปร่วมกิจกรรมกับประเพณีของจังหวัดไหนบ้างและจังหวัดที่มีการจัดกิจกรรมในช่วงวันออกพรรษานั้นมีการจัดประเพณีอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง 

      จังหวัดลําพูนมีการจัดกิจกรรมประเพณีสลากย้อม  ซึ่งจะมีการจัดงาน 7 วัน 7 คืนโดยจะมีการประกวดการเดินแห่ขบวนและมีการนำอาหารท้องถิ่น มาจำหน่ายให้กับบรรดานักท่องเที่ยวที่มาร่วมงานเยอะแยะมากมายเต็มไปหมดเป็นอีกหนึ่งประเพณีที่น่าสนใจที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเดินทางมาร่วมกิจกรรมและ ชมความงดงามของประเพณีนี้กัน 

   จังหวัดแม่ฮ่องสอน ประเพณีออกหว่า  สำหรับประเพณีนี้จะเป็นประเพณีที่เน้นเกี่ยวกับเรื่องของการทำบุญและมีการจัดนิทรรศการต่างๆซึ่งจะมีการนำทำขนมธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมของจังหวัดแม่ฮ่องสอนมาแสดงให้กับประชาชนที่มาร่วมงานได้ชมกันโดยส่วนใหญ่และประเพณีจะจัดขึ้นเป็นระยะเวลาประมาณ 3 วันซึ่งการจัดกิจกรรมส่วนใหญ่นั้นจะจัดขึ้นในช่วงเวลาตอนกลางวัน 

       จังหวัดหนองคาย ประเพณีออกพรรษาบั้งไฟพญานาค  เสื้อผ้าสำหรับประเพณีนี้ทุกคนต้องเคยมีโอกาสได้ยินและอาจจะเคยไปร่วมประเพณีกันมาบ้างแล้วซึ่งโดยปกติแล้วจะมีการจัดกิจกรรมการ 9 วัน 9 คืนเลยทีเดียวและมีกิจกรรมเยอะแยะมากมายให้นักท่องเที่ยวได้ไปเยี่ยมชมที่สำคัญนักท่องเที่ยวยังสามารถไปเยี่ยมชมความสวยงามและความน่าอัศจรรย์ใจของบั้งไฟพญานาคที่จะเกิดขึ้นริมแม่น้ำโขงในวันออกพรรษาช่วงเวลาเที่ยงคืนได้อีกด้วย 

       จังหวัด นครพนมประเพณีงานไหลเรือไฟ   สำหรับที่จังหวัดแห่งนี้จะมีการจัดประเพณีนี้ทุกปีซึ่งจะมีการจัดงาน 10 วัน 10 คืนกันเลยทีเดียวเป็นประเพณีที่มีการจัดอย่างยิ่งใหญ่มีทั้งการไหลเรือไฟและงานกาชาดซึ่งการจัดกิจกรรมนั้นจะมีทั้งช่วงเวลากลางวันและกลางคืนนอกจากนี้ยังมีการทำบุญเพื่อความเป็นสิริมงคลของคนที่ไปร่วมงานอีกด้วย 

      จังหวัดสุราษฎร์ธานี งานประเพณีชักพระ เป็นอีกหนึ่งประเพณีที่มีการจัดยิ่งใหญ่อลังการเป็นอย่างมากและมีการจัดงานกว่า 9 วัน 9 คืนเลยทีเดียวมีกิจกรรมเยอะแยะมากมายทั้งการสอบถามการทอดผ้าป่ารวมถึงการแข่งเรือยาวซึ่งนักท่องเที่ยวจะเพลิดเพลินกับการเดินทางมาเยี่ยมชมและเข้าร่วมกิจกรรมประเพณีของที่นี่อย่างแน่นอน 

        จังหวัดสงขลาประเพณีลากพระและตักบาตรเทโว  เป็นประเพณีที่จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนนั้นหันมาทำบุญไหว้พระตักบาตรเป็นการจัดงานสมโภชที่จะมีการจัดขึ้นที่บริเวณเชิงบันไดเขาตังกวนซึ่งภายในงานนั้นจะมีกิจกรรมเยอะแยะมากมายทั้งการทำบุญการจัดพิธีสมโภชห่มผ้าองค์พระเจดีย์หลวงเขาตังกวนนอกจากนี้ยังมีการตักบาตรเทโวและมีการแข่งขันประกวดเรือแห่อีกด้วย 

 

ได้รับการสนับสนุนจาก    gclub ผ่านเว็บ มือ ถือ

ประเพณีลากพระและตักบาตรเทโว  ประจำจังหวัดสงขลา 

         สำหรับในบทความนี้เราจะมาแนะนำเกี่ยวกับประเพณีที่จะมีการจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีของจังหวัดสงขลาซึ่งนับได้ว่าเป็นประเพณีที่มีการทำกันมาอย่างยาวนานสืบทอดกันรุ่นต่อรุ่นจากคนเฒ่าคนแก่ส่งต่อมายังถึงลูกหลานและปัจจุบันนั้นก็ยังมีการจัดประเพณีกันอย่างยิ่งใหญ่อลังการอยู่และประเพณีก็ยังสามารถดึงดูดให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางมาเที่ยวที่จังหวัดสงขลาเพื่อมาร่วมงานประเพณีกันอย่างคับคั่งมากมายเลยทีเดียว

    ประเพณีลากพระและตักบาตรเทโว สำหรับประเพณีที่เรากำลังพูดถึงนี้คือประเพณีลากพระและตักบาตรเทโวซึ่งโดยปกติแล้วทางจังหวัดสงขลาจะมีการจัดกิจกรรมประเพณีในช่วงประมาณต้นเดือนตุลาคม

ซึ่งเป็นช่วงระหว่างวันออกพรรษาโดยจุดที่มีการจัดกิจกรรมประเพณีนี้จะมีตั้งแต่บริเวณสระบัวแหลมสมิหลานอกจากนี้ยังมีการจัดประเพณีนี้แถวบริเวณเชิงบันไดเขาตังกวนและที่หน้าสนามกีฬาติณสูลานนท์ซึ่งถือว่าเป็นสนามกีฬาประจำจังหวัดสงขลาอีกด้วย

          ประเพณีลากพระและตักบาตรเทโวนั้นทางเจ้าหน้าที่ประจำจังหวัดจะมีการจัดกิจกรรม 3 วันด้วยกันซึ่งโดยปกติแล้วในวันแรกนั้นจะมีการจัดทำพิธีสมโภชบริเวณสระบัวแหลมสมิหลาซึ่งตรงจุดนี้ชาวบ้านจะพากันมารวมตัวเพื่อทำบุญเป็นการห่มผ้าองค์เจดีย์หลวงเขาตังกวนซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำจังหวัดสงขลาและเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวจังหวัดสงขลาให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างมากเลยทีเดียว 

        อย่างไรก็ตามวันต่อมาชาวบ้านก็จะมีการเดินขบวนมาที่บริเวณหน้าสถานีวิทยุเสียงจากทหารเรือเพื่อทำพิธีแห่ผ้าและเปลี่ยนผ้าห่มขององค์เจดีย์หลวงเขาตังกวนซึ่งกิจกรรมจะเริ่มมีการทำการตั้งแต่ 08:00 น เป็นต้นไปและหลังจากที่เสร็จประเพณีในวันดังกล่าวแล้วชาวบ้านก็จะพากันท่องเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวภายในจังหวัด

         หลังจากนั้นในวันรุ่งขึ้นชาวบ้านก็จะมารวมตัวกันแถวบริเวณเชิงบันไดเขาตังกวนอีกครั้งหนึ่งซึ่งจะมารวมตัวกันตั้งแต่ช่วงเวลา 06:30 น เป็นต้นไปเพื่อร่วมพิธีทำบุญตักบาตรเทโวโดยจะมีพระสงฆ์เป็นจำนวนมากมาคอยยืนรับข้าวสารอาหารแห้งแถวบริเวณเชิงบันไดเขาตังกวนและจะมีการเริ่มตักบาตรกันตั้งแต่ช่วงเวลา 8:30 น เป็นต้นไป 

         หลังจากที่ชาวบ้านทำการตักบาตรและมีการเปิดงานประเพณีลากพระเสร็จเรียบร้อยแล้วก็จะมีการชมกันประกวดเรือพระขบวนแห่เรือพระที่นั่งซึ่งการประกวดนี้จะมีการจัดขึ้นที่บริเวณหน้าสนามกีฬาติณสูลานนท์และในวันสุดท้ายนั้นก็จะเป็นพิธีการมอบรางวัลเรือขบวนที่ชนะการประกวด 

 

สนับสนุนโดย   ufabet