ตำนานรัชกาลที่5เสด็จเยือนเมืองพิษณุโลก

เคยได้ยินเรื่องการปลอมตัวของรัชกาลที่5ไหมและรู้หรือไม่ว่าพระองค์ได้ทรงปลอมตัวไปเพราะว่าอะไรเป็นเพียงแค่รัชกาลที่5ชอบเล่นแบบนี้หรือว่ามีเหตุผลอะไรมากกว่านั้นก็เป็นหนึ่งในเรื่องราวที่ชวนให้อมยิ้มเล็กๆทุกครั้งเวลาที่ได้นึกถึงมันรู้สึกเวลาเราดูหนังและมีนางเอกปลอมตัวเราจะต้องลุ้นไปกับหนังด้วยว่าเขาจะจับได้หรือเปล่าอารมณ์นั้นเลย

โดยการเสด็จประพาสแบบนี้ของรัชกาลที่5จะมีโค้ดเนมว่าการประพาสต้นซึ่งในคำนี้จะหมายถึงการไปประพาสโดยที่ไม่ได้บอกคนแถวนั้นก่อนซึ่งก็จะทำให้หลายๆเจ้าเมืองที่พระองค์ได้ไปเยือนไม่ได้มีอะไรมาเตรียมการมาไว้ก่อนเลย 

วันนี้เราก็จะขอพาย้อนยุคกลับไปทำตัวเป็นคนสมัยก่อนกันไปดูสิว่าเมื่อเราได้เป็นคนสมัยก่อนและได้พบเจอ ร.5เข้าเราจะรู้ตัวหรือไม่ว่าเป็นท่าน

โดยที่เราจะนำเอามาเล่าในตอนนี้นั้นก็จะเป็นเรื่องราวครั้ง ร.5 ได้เสด็จไปเยือนที่เมืองพิษณุโลกกับเจ้าเมืองพิษณุโลกที่ในสมัยนั้นเขาจะเรียกกันว่าเจ้าคุณโพต่างกับคนอื่นๆที่ไม่รู้ตัวว่าเวลาที่มีร.5ได้เสด็จมาเยือนเจ้าคุณโพเขาก็ได้มีหน่วยข่าวกรองที่รู้ดีมาก่อนว่าจะมีร.5ได้เสด็จมาเยือนแต่ก็ยังพลาด

หลังจากที่คุณโพได้ยินข่าวจากสายแนวว่าองค์เหนือหัวจะเสด็จมาท่านเจ้าคุณก็ไม่รีรอช้ามีแผนการที่จะคิดสร้างท่าเรือรอรับบริเวณที่เรือของ ร.5 จะมาลงเพื่อที่จะหวังว่าจะเป็นการต้อนรับแบบสมเกียรติแต่ด้วยความที่ว่าเวลามันกระชั้นชิดเจ้าคุณโพก็กลัวว่างานจะไม่เสร็จก็ได้ถอดเสื้อลงไปทำงานลุยกับพวกช่างตักเตรียมงานอะไรเองเลย

ในขณะที่กำลังสร้างอยู่นั้นก็ได้มีเรือแจวสี่ลำได้แจวเข้ามาและก็ได้จองเทียบท่าในนั้นก้จะมีผู้ชายอยู่สามคนได้เดินลงมาและเจ้าคุณโพก็รู้เลยว่านี่มันต้องไม่ใช่เรื่องที่ธรรมดาแน่ๆต้องเป็นเรือของทางการที่มุ่งหน้ามาก่อนเพื่อที่จะให้เตรียมการในการรับเสด็จอย่างแน่นอน

นอกจากนี้ในบรรดาพวกผู้ชายทั้งหมดนั้นก็จะมีชายอยู่คนหนึ่งที่ไว้หนวดและได้ถือกล้องอยู่อารมณ์จากผู้ดีจากเมืองกรุงและในตอนนี้คนอ่านก็พอจะรู้แล้วว่าท่านเป็นใครแต่เจ้าคุณโพไม่รู้เขากลับคิดว่าคนๆนั้นอาจจะเป็นหัวหน้างานก่อสร้างแน่ๆเลยถือกล้องมาตรวจเช็คงานอะไรประมาณนี้

ซึ่งต้องบอกก่อนเลยว่าสมัยนั้นยังไม่มีโซเชียลรูปภาพยังหาได้ยากเลยดังนั้นน้อยคนแล้วที่จะเห็นพระบรมฉายาลักษณ์ขององค์เหนือหัว

 

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย     คาสิโนออนไลน์ได้เงินจริงฝากขั้นต่ำ100

ตํานานวันวาเลนไทน์

         สำหรับเรื่องเล่าตำนานของวันวาเลนไทน์นั้นเป็นเรื่องเล่าตั้งแต่สมัยคริสตศักราช 300 ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวนั้นเป็นช่วงที่โลกยังคงมีการทำศึกสงครามกันอยู่เรื่องเล่าเกี่ยวกับเรื่องของวันวาเลนไทน์นั้นเกิดขึ้นที่กรุงโรมซึ่งในสมัยนั้นเป็นสมัยของพระเจ้าคลอดิอุสที่สอง ซึ่งในช่วงนั้นพระองค์กฐินกับถุงมือในการทำศึกสงครามเป็นอย่างมากมักจะเกณฑ์ไพล่พลที่เป็นผู้ชายเพื่อไปทำศึกสงคราม 

และแน่นอนว่าผู้ชายเหล่านั้นบางคนก็เป็นคนโสดและบางคนก็มีครอบครัวซึ่งคนที่มีครอบครัวอยู่แล้วก็มักจะไม่อยากจากครอบครัวของตนเองไปเพราะอยากอยู่กับคนรักทำให้ พระเจ้าคลอดิอุสที่สอง ทรงไม่พอพระทัยเป็นอย่างมากถึงขนาดต้องมีการประกาศออกมาว่านับตั้งแต่นั้นเป็นต้นไปห้ามมีการจัดการแต่งงานเกิดขึ้น

จนกว่าจะมีการทำศึกสงครามแล้วเสร็จซึ่งการประกาศเช่นนี้สร้างความเสียใจให้กับประชาชนเป็นอย่างมากโดยเฉพาะหนุ่มสาวที่เป็นคู่รักกันและหวังจะใช้ชีวิตคู่ด้วยกันอย่างไรก็ตามในช่วงเวลานั้นได้มีบาทหลวงคนหนึ่งซึ่งเขามีชื่อว่าวาเลนไทน์บาทหลวงคนนี้เมื่อได้ฟังคำประกาศของพระราชาแล้วก็เกิดรู้สึกว่าคำประกาศนี้ไม่มีความเป็นธรรมให้กับประชาชนและเขาสงสารหนุ่มสาวที่รักกันจึงได้แอบจัดงานแต่งงานให้กับหนุ่มสาวอยู่หลายคู่จนในที่สุดก็ถูก พระเจ้าคลอดิอุสที่สอง  จับได้ว่านักบวชวาเลนไทน์นั้นเป็นคนที่แอบจัดงานแต่งงานให้กับหนุ่มสาวพระองค์จึงได้สั่งให้ทหารจับคุมนักบวชวาเลนไทน์มาขังไว้ในคุก

ซึ่งในสมัยนั้นนักบวชถือได้ว่ามีความรู้ที่จะสามารถรักษาคนป่วยได้ด้วยซึ่งทางด้านผู้คุมขังที่ดูแลนักบวชวาเลนไทน์อยู่นั้นมีลูกสาวอยู่ 1 คนเธอป่วยเป็นโรคตาบอดเขาจึงได้ขอร้องให้นักบวชวาเลนไทน์นั้นช่วยรักษาอาการให้กับลูกสาวของเขาซึ่งนักบวชวาเลนไทน์สามารถรักษาอาการของหญิงสาวคนดังกล่าวจนหายขาดจากอาการตาบอดและระหว่างที่มีการรักษาอาการตาบอดกันนั้น

ก็เกิดความรักขึ้นระหว่างนักบวชวาเลนไทน์กับหญิงสาวแต่อย่างไรก็ตามในท้ายที่สุดแล้วนักบวช Valentine ก็จะต้องถูกประหารชีวิตก่อนที่เขาจะถูกประหารชีวิตนั้นเขาได้มีการส่งจดหมายไปบอกรักหญิงสาวคนดังกล่าวซึ่งในจดหมายนั้นเขาได้มีการลงชื่อไว้ตอนท้ายว่า from your Valentine

โดยข้อความในจดหมายนั้นมีการเขียนเอาไว้ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ซึ่งตรงกับวันที่นักบวชวาเลนไทน์นั้นถูกฆ่าตายทำให้นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาผู้คนต่างก็สรรเสริญนักบวชวาเลนไทน์จึงได้มีการจัดเทศกาลวันวาเลนไทน์ขึ้นโดยจะยึดเอาวันที่ 14 เดือนกุมภาพันธ์ซึ่งเป็นวันเสียชีวิตของนักบวชวาเลนไทน์รวมถึงวันที่นักบวชวาเลนไทน์ได้สารภาพรักกับหญิงสาวมาเป็นวันที่บอกรักให้กับผู้รับของตนเองในปัจจุบันนั่นเอง

 

ได้รับการสนับสนุนโดย   คาสิโนออนไลน์ได้เงินจริง