วัฒนาการของการดื่มชาในประเทศญี่ปุ่นมีความเป็นมายาวนานและเป็นส่วนสำคัญของวัฒนธรรมญี่ปุ่นมาจนถึงปัจจุบัน การดื่มชาเริ่มต้นขึ้นในญี่ปุ่นเมื่อประมาณศตวรรษที่ 9
โดยได้รับอิทธิพลมาจากประเทศจีน พระภิกษุชาวญี่ปุ่นได้นำชากลับมาจากการไปศึกษาที่ประเทศจีนและเริ่มทำการเพาะปลูกชาในญี่ปุ่น ในยุคแรกๆ ชาถูกใช้ในพิธีกรรมทางศาสนาและการทำสมาธิของพระสงฆ์
ในช่วงศตวรรษที่ 12 ถึง 13 วัฒนธรรมการดื่มชาได้เริ่มแพร่หลายในวงกว้าง
โดยได้รับการส่งเสริมจากชนชั้นปกครอง เช่น ขุนศึกและซามูไร การดื่มชาไม่เพียงแค่เป็นการบริโภคเครื่องดื่ม แต่ยังเป็นวิธีการทำสมาธิและแสดงความเคารพต่อธรรมชาติและความเรียบง่าย จากนั้นในยุคเมจิ (ศตวรรษที่ 19)
ชาได้รับการส่งเสริมให้เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมสังคมทั่วไป โดยมีการนำเสนอวิธีการชงชาแบบพิเศษที่เรียกว่า “ซาโด” หรือ “พิธีชงชา” ซาโดได้กลายเป็นศิลปะที่รวมเอาความงามของธรรมชาติ ความเรียบง่าย และการมีสมาธิเป็นหนึ่งเดียวกัน
แรงบันดาลใจที่ทำให้คนญี่ปุ่นนิยมดื่มชาเกิดจากหลายปัจจัย ประการแรกคือความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งระหว่างการดื่มชากับการทำสมาธิและศาสนาพุทธ ชาเป็นสัญลักษณ์ของความสงบและการมีสมาธิ ซึ่งเป็นคุณค่าที่สำคัญในวัฒนธรรมญี่ปุ่น
นอกจากนี้ huaydee และวัฒนธรรมชาได้สร้างสรรค์ความรู้สึกของการเคารพและสังเกตการณ์ธรรมชาติและความเรียบง่าย คนญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับช่วงเวลาที่สามารถสัมผัสและสังเกตการณ์ความงามในชีวิตประจำวัน ซึ่งพิธีชงชาเป็นวิธีที่สามารถสัมผัสประสบการณ์นี้ได้อย่างเต็มที่
ในส่วนของตำนานเกี่ยวกับชาในญี่ปุ่น มีตำนานหนึ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับพระสงฆ์ชื่อ ไดโมคุ ซึ่งตามตำนานกล่าวว่า ไดโมคุได้ทำสมาธิเป็นเวลานานจนตาของเขาปิดลงด้วยความเหนื่อยล้า เพื่อที่จะป้องกันไม่ให้เขาหลับ
พระไดโมคุจึงได้ตัดเปลือกตาของตนเองแล้วโยนทิ้งลงบนพื้นดิน และจากนั้นต้นชาได้งอกขึ้นจากดินตรงจุดที่เปลือกตาตกลงมา ทำให้ชามีคุณสมบัติที่ช่วยให้ผู้ดื่มมีความตื่นตัวและมีสมาธิ
อีกตำนานหนึ่งกล่าวถึงพระชื่อ ไซโช ผู้เดินทางไปยังประเทศจีนเพื่อนำกลับมาซึ่งชาที่ใช้ในการทำสมาธิของพระพุทธศาสนา
เมื่อกลับมาญี่ปุ่น พระไซโชได้ปลูกชาในสวนของวัดเอนริยากุจิ ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเพาะปลูกชาในญี่ปุ่น วัดเอนริยากุจิกลายเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมการดื่มชาและแพร่หลายไปยังวัดอื่นๆ ทั่วประเทศ
สรุปแล้ว วัฒนาการของการดื่มชาในญี่ปุ่นเป็นเรื่องของการผสมผสานระหว่างศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรมซึ่งมีอิทธิพลสำคัญในการสร้างสรรค์และรักษาความเรียบง่ายและความสงบในชีวิตประจำวันของชาวญี่ปุ่น